หากพูดถึงสิ่งแทนใจแทนความรู้สึกในความรัก คุณจะนึกถึงอะไรบ้าง แน่นอนอันดับต้นๆ คุณคงนึกถึงแหวนเพชร โดยแหวนเพชรนั้นจะมีราคาแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสี ความสะอาด การเจียระไน จำนวนกะรัต วัสดุของตัวเรือน รวมถึงความยากง่ายในการออกแบบ เป็นต้น สำหรับใครที่กำลังจะเลือกซื้อแหวนเพชรสักวง ก็คงหนักใจไม่น้อยเลย เพราะว่า หากเลือกผิดหรือว่าเกิดไม่ถูกใจขึ้นมา จะเปลี่ยนแบบหรือว่าจะเปลี่ยนวงก็อาจต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นเราจึงควรเรียนรู้วิธีการเลือกซื้อแหวนเพชรให้คุ้มค่าและถูกใจที่สุดกันก่อนจะดีกว่าครับ
ก่อนที่จะเลือกก็ต้องดูก่อนว่า เราต้องการแหวนเพชรไปใช้ในจุดประสงค์อะไร เพื่อกำหนดงบประมาณได้อย่างถูกต้อง และที่สำคัญอย่าลืมศึกษาเรื่องคุณสมบัติต่างๆ ของเพชรไว้ด้วย เพื่อจะได้กำหนดราคาของเพชรได้ด้วย โดยคุณสมบัติจะเป็นตัวบอกให้เราทราบว่า เพชรน้ำอะไร? ความสะอาดระดับไหน? คุณภาพการเจียระไนเป็นอย่างไร? มีขนาดเท่าไหร่? ราคากับคุณภาพคุ้มไหม? เป็นต้น เมื่อได้คุณสมบัติของเพชรแล้ว คราวนี้ก็มาถึงเรื่องของการสำรวจร้านที่จะซื้อด้วย โดยมีการเปรียบเทียบราคา โดยต้องเปรียบเทียบเพชรที่เกรดและมีคุณสมบัติเดียวกันด้วย เพื่อให้เท่าเทียมกัน ก็ลองเปรียบเทียบกันสักสองสามร้าน และค่อยตัดสินใจก็ได้
เมื่อเราได้ร้านที่ต้องการแล้ว คราวนี้เราก็ต้องคิดถึงรายละเอียดย่อยๆ ของเพชรกันแล้ว อย่างเช่นในเรื่องของสี มีหลายระดับ เช่น D E F G H เปรียบกับน้ำ100, 99, 98, 97, 96 เป็นต้น คนไทยนิยมเรียกสีของเพชรว่า “น้ำ” และมักจะใช้ตัวเลขเทียบเป็นเปอร์เซนต์ โดยมีเปอร์เซ็นต์ความขาวใสสูงสุดอยู่ที่ 100% เพชรหากมีความขาวใสสูงเท่าไร ราคาก็สูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน เพชรยิ่งสะอาดบริสุทธิ์ไร้สิ่งเจือปนมากเท่าไรก็จะยิ่งสวยงามมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 11 ระดับดังนี้
1. FL : ไร้ตำหนิทั้งภายนอกและภายใน
2. IF : ไร้ตำหนิภายในเพชร แต่อาจมีตำหนิภายนอกเล็กน้อย
3. VVS1-VVS2 : ตำหนิเล็กมากๆ มองเห็นด้วยกล้องขยาย 10 เท่า
4. VS1-VS2 : ตำหนิขนาดเล็กมาก มองเห็นด้วยกล้องขยาย 10 เท่า
5. SI-1-SI2 : ตำหนิขนาดเล็ก อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าในบางกรณี
6. I1-I2-I3 : สามารถมองเห็นได้ทันทีด้วยตาเปล่า
การเจียระไนถือเป็นคุณลักษณะสำคัญที่ทำให้เพชรของเราส่องประกายเจิดจรัสแวววาวอยู่บนนิ้วอย่างสวยงามโดดเด่น ซึ่งจะมีการแบ่งคุณภาพการเจียระไนออกเป็น 5 ระดับดังนี้
1. 1. Excellent 2. Very Good 3. Good 4. Fair 5. Poor ยิ่งเพชรมีความสะอาดสูง ราคาก็สูงขึ้นเช่นกัน
สุดท้าย! เราต้องดูน้ำหนักของเพชรที่เราต้องการ ยิ่งเพชรมีขนาดใหญ่ขึ้นมากเท่าไรก็ยิ่งแพงและหายากมากขึ้นเท่านั้น คุณสมบัติเบื้องต้นที่สำคัญเหล่านี้ เราจำเป็นต้องรู้ไม่มากก็น้อย เพราะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะได้แหวนเพชรสวยระดับไหนตามงบประมาณที่เราตั้งไว้
เมื่อเราได้เพชรแล้วก็มาถึงตัวเรือนกันบ้าง สำหรับใครที่พอมีงบก็น่าจะเลือกแบบแพลทินัม ซึ่งราคาจะแพงกว่าทอง 2-3 เท่า แต่ว่าหากต้องออกแบบก็อาจจะต้องดูว่า เราน้ำหนักขึ้นลงเปลี่ยนแปลงมากน้อยอย่างไร ถ้าเปลี่ยนแปลงมาก ก็ไม่ควรใช้แบบแพลทินัม เพราะว่า เวลาจะแก้ไขจะแก้ไขรูปทรงได้ยาก นี่แหละคือการเลือกซื้อแหวนเพชรที่ละเอียดมากที่สุด และจะช่วยให้คุณนั้นตัดสินใจไม่ผิด คุ้มค่ากับการลงทุน
เพราะว่าแหวนเพชร คือ แหวนที่แทนความรักและความทรงจำที่ดีระหว่างคู่รัก หรือแทนช่วงเวลาที่มีค่า ด้วยมูลค่าของเพชรที่สูงและตัวเรือนที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อบ่งบอกถึงวันสำคัญของคุณ เพราะฉะนั้นการเลือกเพชรและตัวเรือนของแหวนจึงมีความสำคัญมาก ก่อนที่จะตัดสินใจจึงควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ ยิ่งเป็นแหวนหมั้นแหวนแต่งงานแล้วก็ต้องถูกใจทั้งชายและหญิงด้วย การมีคนร่วมกันตัดสินใจน่าจะตัดสินใจได้ง่ายกว่า และดีกว่าด้วย เพราะว่าหากผิดพลาดก็ไม่มีใครโทษใคร
แต่หากจะใช้แหวนเพชรเป็นของขวัญของฝากในเทศกาลต่างๆ ถ้าจะไม่ให้ยุ่งยากเกินไป ก็ลองเลือกแหวนเพชรที่สำเร็จรูปในร้านดู เพราะว่ามีการออกแบบเรียบร้อยแล้วนั่นเอง และที่สำคัญไม่ต้องรอนานด้วย ไปซื้อได้เลย แต่ก่อนที่จะเลือกซื้อก็ต้องสำรวจกันก่อนนะว่าแหวนเพชรในแบบที่เราอยากได้นั้น ราคาประมาณเท่าไร จะได้เตรียมเงินไปได้ถูก หรือว่า ก่อนที่จะถึงโอกาสที่จะให้ ก็อาจจะต้องไปสำรวจแหวนเพชรที่เราต้องการก่อน โดยคิดไว้เลยว่าต้องการรูปแบบไหน เป็นอย่างไร และอย่าลืมคิดถึงนิสัยของคนที่เราจะให้ด้วย เพื่อจะได้เลือกให้ถูกใจผู้รับมากที่สุด รับรองเลยว่า หากคุณเลือกซื้อแหวนเพชรตามวิธีที่บอกไว้ คุณจะได้แหวนเพชรที่สวยงาม ตรงใจ และคุ้มค่ามากที่สุด!