อัญมณีอินทรีย์ นอกเหนือจากไข่มุกและอำพันที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีแล้ว ปะการังมีค่า(Precious Coral) ก็จัดเป็นอัญมณีอินทรีย์อีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมอย่างมาก แต่เนื่องจากอัญมณีแห่งท้องทะเลชนิดนี้ได้มาจากสัตว์ทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ ในทางการค้าจึงมีมิติทางด้านการอนุรักษ์ที่จะต้องคำนึงถึงด้วย
ปะการังมีค่า(Precious coral)
ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศแถบเอเชียได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และบางประเทศในทวีปยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอิตาลี
ปะการัง นั้นมีหลากหลายชนิด ทั้งปะการังน้ำตื้นตามแถบแนวปะการัง ปะการังอ่อน ปะการังน้ำลึก เป็นต้น แต่จะมีแค่บางชนิดเท่านั้นที่มีคุณสมบัติพอจะนำมาทำเป็นอัญมณี ซึ่งเราเรียกว่า “ปะการังมีค่า” ส่วนใหญ่จะอยู่ในชนิด Coralliunsp ปะการังชนิดนี้จัดเป็นปะการังที่เกิดในน้ำลึก ไม่ใช่ปะการังตามแนวปะการัง(coral reef) ที่อยู่ในน้ำตื้นที่เรามักพบเห็นกันบ่อยๆ จัดเป็นกลุ่มปะการังแคลคาเรียส(Calcareous Coral) ที่มีตั้งแต่สีชมพูไปจนถึงสีแดงเข้ม ลักษณะเนื้อแน่นมีความวาวเหมือนกระเบื้องเคลือบ มีชื่อทางการค้าแตกต่างกันไปตามชนิดสายพันธุ์ หรือลักษณะปรากฏ เช่น Ox’s blood, Angel skin, Midway, Aka เป็นต้น
แต่เนื่องจากปัจจุบันมีการจับปะการังเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอัญมณีเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก จึงก่อให้เกิดความกังวลถึงผลกระทบทางสภาพแวดล้อมของแหล่งที่อยู่ของปะการังตามธรรมชาติ ตลอดจนเรื่องความเสี่ยงในการสูญพันธุ์ในปัจจุบันจึงมีหลายประเทศที่กำหนดข้อห้ามการนำเข้าปะการังเพื่อการค้า โดย CITES หรืออนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศของชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ได้จัดกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่สามารถทำการค้าได้ภายได้การควบคุมที่เข้มงวด
แม้ประเทศไทยจะไม่ได้เป็นประเทศหลักที่มีการค้าปะการังมากมัก โดยนอกจากปะการังมีค่าแล้ว ในอุตสาหกรรมยังมีการใช้ปะการังคุณภาพต่ำที่ไม่เหมาะกับการใช้เป็นอัญมณี นำมาทำการปรับปรุงคุณภาพอีกด้วย เช่น ปะการัง Bamboo Coral ที่ปกติมีสีขาวมักถูกนำมาย้อมสีเป็นสีแดงและขายในราคาถูก หรือ Sponge Coral ที่เป็นปะการังที่มีความพรุนสูง ก็มักถูกนำมาอัดด้วยสารโพลีเมอร์และใส่สี ก่อนจะนำมาใช้ทำเป็นเครื่องประดับ
นอกจากนั้นปะการังอ่อนชนิดสีดำ(Black Coral) จัดเป็นปะการังน้ำลึกชนิดหนึ่งที่นำมาใช้เป็นอัญมณีเช่นเดียวกัน ปะการังเป็นสารแคลเซียมคาร์บอเนต รวมทั้งเป็นสารอินทรีย์ที่มีความแข็งที่ต่ำ ดังนั้นในการใช้งานต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในเรื่องของการถูกสารเคมีหรือการขูดขีดกับสิ่งอื่นๆ ด้วย
อัญมณีในเครื่องประดับไม่ว่าจะมาจากอัญมณีอินทรีย์หรืออัญมณีอนินทรีย์ ล้วนเป็นของขวัญจากธรรมชาติที่มอบให้แก่มนุษย์ชาติ เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีและความมั่งคั่ง ซึ่งเชื่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณว่า อัญมณีมีมนต์เสน่ห์และพลังอัศจรรย์ ผู้คนจึงนิยมสวมใส่เสมือนเป็นเครื่องรางขจัดปัดเป่าโชคร้ายและภยันอันตราย ประทานพละกำลังและความมีสุขภาพดีแก่ผู้สวมใส่ หากผู้ใดได้ครอบครองอัญมณีก็จะดีไม่น้อยใช่ไหมละคับ?
ขอบคุณบทความดีๆ จาก : GIT สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ