วงจรแห่งการค้าความงามในผลึก การค้าพลอยในเมืองจันท์มีมาเป็นเวลากว่า 50-60 ปีมาแล้ว ชนกลุ่มแรกๆ ที่เข้ามาบุกเบิกการค้าพลอยคือ ชาวไทยใหญ่ที่คนจันทุบรีเรียกกว่า “กุหลา” คนเหล่านี้รอนแรมมาจากรัฐฉาน และจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมากันเป็นกองคาราวาน ใช้เวลาเดินทางหลายเดือน ค่ำไหนนอนนั่น พาโคมาด้วยคราวละมากๆ ทั้งใช้เทียม เกวียน และขายไปด้วยระหว่างเดินทาง เหตุที่ต้องมากันเป็นกลุ่มใหญ่ ก็เพื่อป้องกันโจรผู้ร้ายนั่นเอง
ในอดีตเวลาซื้อขายพลอย ผู้ซื้อจะเทพลอยจากถุงหรือห่อลงในถาด ซึ่งมีขอบสูงเกือบ 1 นิ้ว และเส้นผ่านศูนย์กลางราว 14 นิ้ว แล้วจึงจะเลือกพลอยในถาดตามพอใจ ฝ่ายผู้ขายมักใช้น้ำมันหอมเคล้าพลอยก่อน เพื่อให้มีสีแสงดูงดงามและมีกลิ่นหอมจูงใจให้อยากดูนานๆ ส่วนการต่อรองนั้น จะทำกันทั้งอย่างเปิดเผยและใช้วิธีลับ วิธีหลังจะใช้ผ้าคลุมมือยามต่อรองราคากัน เมื่อคนกลางยื่นมือไปจรดมือผู้ขายภายใต้ผ้าคลุม ผู้ขายจะบอกราคาโดยวิธีจับนิ้วมือ แล้วคนกลางจะยื่นมือไปจับนิ้วผู้ซื้อใต้ผ้าคลุมเพื่อบอกราคา ผู้ซื้อก็จะจับนิ้วคนกลางเป็นการต่อรอง คนกลางจะแจ้งให้ผู้ขายทราบโดยวิธีเดียวกัน ทำเช่นนี้จนกว่าจะตกลงกันได้ ตามวิธีนี้นิ้วหนึ่งอาจะเท่ากับหนึ่งพันหรือหนึ่งหมื่นบาทก็ได้แล้วแต่หน้าพลอย คือแล้วแต่พลอยนั้นน้ำขึ้นแสงดีเพียงใด คนกลางมีประโยชน์มากเพราะช่วยให้การซื้อขายเป็นไปโดยสะดวก แต่ปัจจุบันไม่นิยมซื้อขายด้วยวิธีนี้แล้ว เพราะอาจเกิดความเข้าใจผิดกันได้ง่าย
ทุกวันนี้เมืองจันท์ยังคงเป็นแหล่งค้าพลอยที่สำคัญอยู่ พลอยที่นำมาขายกันมีทั้งพลอยดิบที่ไม่ได้ตัดแต่งมากนัก และพลอยเจียระไนสีสันงดงามส่งประกายแวววาว
จังหวัดจันทบุรี ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งจำหน่ายพลอยหรืออัญมณีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยในแต่ละปีมีพ่อค้าพลอยทั้งในและต่างประเทศแวะเวียนกันมาอย่างไม่ขาดสาย ปัจจุบันนี้การค้าขายพลอยนั้น ส่วนมากพลอยที่ขายกันตามท้องตลาดจะเป็นพลอยจากแหล่งอื่นๆ มากกว่าพลอยจันท์แท้ๆ เนื่องจากพลอยจันทบุรีนั้นเริ่มหายากแล้ว
ตลาดพลอยเจียระไน มีแหล่งค้าขายสำคัญอยู่ในตัวเมืองบริเวณถนนศรีจันทร์และถนนอัญมณีสองฝั่งถนนนี้ มีร้านขายพลอยเรียงรายอยู่ร่วมร้อยแห่ง ทั้งที่เป็นท้องแถวไม้เปิดโล่ง และตึกแถวติดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ แต่ละร้านจะมีโต๊ะตั้งอยู่จนเกือบเต็มในวันมีตลาด คือ วันศุกร์ เสาร์และเช้าวันอาทิตย์ โต๊ะเหล่านี้จะมีบรรดาผู้ซื้อพลอยนั่งอยู่ พร้อมด้วยเครื่องมือในการดูพลอย เช่น คีมคีบ แว่นขยาย เครื่องคิดเลข ตาชั่ง เป็นต้น บนโต๊ะปูด้วยกระดาษขาวสะอาดเพื่อช่วยขับให้เห็นความงามของพลอยได้อย่างชัดเจน โต๊ะที่อยู่ในทำเลดีๆ จะเช่ากันตั้งแต่ตัวละ 30,000-60,000 บาทต่อปี สองฝั่งถนนแออัดไปด้วยผู้คน มีมอเตอร์ไซด์ของเด็กเดินพลอย (ซึ่งเป็นผู้รับพลอยจากเถ้าแก่หรือเจ้าของพลอยมาจำหน่าย) เอามาให้ดูเอง เจ้าของโต๊ะจะเป็นผู้ซื้อและผู้คุมพลอย คือ ผู้รับประกันว่าพลอยที่ซื้อจากจากโต๊ะไปเป็นพลอยที่มีคุณภาพจริง
ถนนอัญมณี เป็นคำเรียกขาน หมายถึง บริเวณถนนศรีจันท์และซอยกระจ่าง นับเป็นถนนเศรษฐกิจของจังหวัด เพราะเป็นที่ตั้งของร้านเจียระไนพลอยและร้านค้าอัญมณีต่างๆ ซึ่งอาจนับได้ว่าสถานที่แหล่งนี้เป็นตลาดค้าพลอยเจียระไนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ในวันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. ยังสามารถเห็นบรรยากาศการซื้อขายพลอยของบรรดานายหน้าและพ่อค้าพลอย ที่เดินทางมาจากที่ต่างๆ กันทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเมืองจันทบุรี ซึ่งไม่อาจพบได้ในจังหวัดอื่นๆ และอัญมณีเป็นสินค้าเศรษฐกิจที่ขึ้นชื่อของจังหวัดจันทบุรี ทำให้มีพลอยคุณภาพหลากหลายชนิดและเหลี่ยมคมที่งดงาม ผ่านการเจียระไนจากช่างฝีมือที่ชำนาญการ