สำหรับคนซื้อเพชร ใครๆ ก็อยากได้เพชรที่มีคุณภาพที่สุดสมกับราคาที่จ่ายไป มักมีคนสอบถามเข้ามาบ่อยๆ ว่า หากจะตัดสินใจซื้อเพชรเม็ดหนึ่ง เพชรมีใบเซอร์ ต่างจากเพชรที่ไม่มีใบเซอร์ อย่างไร แล้วควรเลือกซื้อเพชรแบบไหนจะดีกว่า? คำถามนี้เป็นอีกหนึ่งคำถาม ที่ผมได้ยินบ่อยมากๆ จริงๆ แล้ว คำถามนี้เหมือนจะตอบยากหรือไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แล้วแต่ความพอใจของแต่ละบุคคล ร้านค้าหลายร้านมักจะบอกลูกค้าว่า ซื้อเพชรแบบมีใบเซอร์ทำไม ซื้อแบบไม่มีใบเซอร์ดีกว่าถูกกว่าเยอะ แต่ในความเป็นจริง คือ ถ้ามีให้เลือกระหว่างซื้อเพชรมีใบเซอร์กับซื้อเพชรไม่มีใบเซอร์ ผมจะเลือกซื้อเพชรมีใบเซอร์ หรือ Diamond Report เสมอ เพราะเหตุผลดังนี้คับ
1. เพื่อให้สบายใจว่า เราได้เพชรแท้ เพชรธรรมชาติ ถ้าเราเลือกซื้อเพชรแบบไม่มีใบเซอร์ เราจะทราบได้ยังไงคับ ว่าเพชรเม็ดนั้นๆ เป็นเพชรแท้ เพชรธรรมชาติ ไม่ใช่เพชรปลอม เพชรเลียนแบบ หรือเพชรสังเคราะห์? โดยเฉพาะผู้ซื้อทั่วไป ที่ไม่ได้มีความชำนาญมากพอที่จะแยกแยะระหว่างเพชรแท้และเพชรปลอม เพชรที่มีใบเซอร์ ซึ่งได้ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ และอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ มาแล้ว และมีการสรุปผลในใบเซอร์ว่าเป็นเพชรแท้ เพชรธรรมชาติ จึงสามารถทำให้เรามั่นใจและสบายใจได้รับของแท้แน่นอน 100% คับ
2. เพื่อความมั่นใจว่า เราได้เพชรคุณภาพตรงตามที่ทางผู้ขายแจ้ง ในใบเซอร์เพชรรุ่นใหม่ๆ นั้น มีรายละเอียดเพชรครบทั้ง 4C คือ สี (Color), ความสะอาด (Clarity), การเจียระไน (Cut) และน้ำหนัก (Carat) หากปราศจากใบเซอร์ สมมติผู้ขายบอกว่าน้ำ 99 แต่เอาเข้าจริงอาจจะแค่ 97 เราจะทราบได้อย่างไรครับ หรืออาจบอกว่าความสะอาดอยู่ที่ระดับ VVS1 แต่จริงๆ แล้ว ระดับความสะอาดอาจอยู่แค่ VS2 ก็เป็นได้
มีอยู่ครั้งหนึ่ง สมัยนั้นเพชรมีใบเซอร์ ส่วนมากจะเป็นเพชรขนาดใหญ่กว่า หนึ่งกะรัตขึ้นไป เพชรขนาดเล็กหรือต่ำกว่านั้นมักไม่มีใบเซอร์ มีเพื่อนคนหนึ่งนำเพชรขนาด 50 ตังค์ มาให้ผมช่วยตรวจเช็ค บอกว่าซื้อเพชรมาน้ำ 99 ผมดูๆ แล้วคิดว่า ไม่น่าถึง น่าจะแค่น้ำ 97 แต่เพื่อนผมก็ยืนยัน ว่าถึงแน่ๆ คนขายเขาบอกมาอย่างนั้น ผมก็เลยบอกว่าลองเอาไปเซอร์ดูก่อนว่าจริงอย่างที่คนขายเพชรบอกมาหรือเปล่า เพื่อนผมก็เลยไปตกลงกับคนขายว่าจะส่งเพชรไปเซอร์ ถ้าน้ำ 99 จริง ก็จะซื้อ ถ้าไม่ถึง ขอคืนไม่ซื้อนะ ปรากฏว่าเพชรเม็ดนั้น น้ำแค่ 97 จริงๆโชคดีที่เพื่อนผมกลับไปตกลงกับคนขายใหม่ ไม่งั้นคงจะจ่ายค่าเพชรแพงกว่ามูลค่าที่แท้จริงอยู่พอสมควร ว่าแต่ใครจ่ายค่าค่าใบเซอร์ใบนั้นนะ ผมไม่ได้ถาม ^__^
3. เพื่อให้แน่ใจว่า เราไม่ได้จ่ายราคาแพงเกินควร ง่ายต่อการเปรียบเทียบราคา เมื่อเราทราบถึงคุณลักษณะต่างๆ ของเพชรอย่างละเอียดทั้งสี (Color), ความสะอาด (Clarity), การเจียระไน (Cut) และน้ำหนัก (Carat) ทำให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบราคา เช่น เพชรน้ำ 96 VS1 3ex GIA เหมือนกัน ร้านนี้ขาย 30,000 บาท อีกร้านขาย 29,000 บาท อย่างนี้แน่นอนว่าร้านหลังถูกกว่า ถ้าไม่มีใบเซอร์ แต่เพชรร้านแรกขาย 30,000 บาท อาจถูกกว่าร้านสองที่ขาย 29,000 บาท ก็เป็นได้ครับ ถ้าเพชรร้านแรกเป็นน้ำ 96 จริงๆ ขณะที่ร้านสองเป็นน้ำ 95 การมีใบเซอร์มาการันตีคุณภาพ ยังป้องกันเราจากการจ่ายราคาเกินควร เช่น เพชรจริงๆ น้ำ 94 แต่ราคาตั้งไว้ที่น้ำ 96 เป็นต้นคับ
4. ซื้อง่าย ขายคล่อง วันหนึ่งหากเกิดเราร้อนเงิน หรืออาจจะเบื่อเพชรเม็ดนี้แล้ว อยากเปลี่ยนเพชรเม็ดใหม่ เพชรมีใบเซอร์ ขายง่าย และได้ราคากว่าเพชรไม่มีใบเซอร์หลายขุมครับ ยิ่งถ้าเป็นเพชรสวยๆ เกรด 3ex ใบเซอร์ที่ออกจากสถาบันดังๆ เป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือ อย่างเช่น GIA, HRD, AGS, IGI ขายง่ายแน่นอนคับ
หลายๆ ท่านอาจบอกว่า แต่ซื้อเพชรมีใบเซอร์ แพงกว่าเพชรไม่มีใบเซอร์เยอะนะ ความจริงก็คือ ถ้าเป็นเพชรที่คุณภาพเดียวกันจริงๆ เพชรมีใบเซอร์ กับเพชรไม่มีใบเซอร์ ราคาจะต่างกันแค่ค่าใบเซอร์เท่านั้นครับ (1,000-2,000 บาท สำหรับเพชรขนาด 0.30-0.40) หลายๆ ครั้ง ผมเห็นเพชรมีใบเซอร์ ถูกกว่าเพชรไม่มีใบเซอร์ที่มาแบบเป็นล็อตๆ ซะอีก บางครั้งเราอาจเคยเห็นเพชรไม่มีใบเซอร์ถูกกว่าเพชรที่มีใบเซอร์มากๆ เชื่อเถอะคับว่านั่นเป็นเพราะ จริงๆ แล้ว เพชรไม่มีใบเซอร์เม็ดนั้นๆคุณภาพต่ำกว่าเพชรมีใบเซอร์อีกเม็ดคับ ^__^
แน่นอนคับ คนซื้อเพชรก็คงอยากได้เพชรที่มีคุณภาพดีที่สุดสมกับราคาที่ได้จ่ายไป แต่หากจ่ายเงินไปแล้ว แต่ที่ได้เพชรที่มีคุณภาพต่ำกว่าราคาที่จ่ายไป ก็คงจะเสียอารมณ์ เสียเวลา และเสียความรู้สึกอีกหลายๆ อย่างตามมาใช่ไหมคับ แต่เพื่อให้มั่นใจและสบายใจที่สุด ลองซื้อเพชรมีใบเซอร์ดูบ้างก็เป็นเรื่องที่ดีใช่ไหมคับ ถึงแม้จะมีค่าใบเซอร์เพิ่มขึ้น แต่จะทำให้เราได้เพชรแท้ เพชรธรรมชาติ ในราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพแน่นอนครับ