บทความที่แล้ว… ผมได้แบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับ อัญมณีอินทรีย์ ซึ่งเป็นที่นิยมในท้องตลาด ที่ชื่อว่า มุก ไปแล้ว บทความนี้มาทำความรู้จัก อัญมณีอินทรีย์ อีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน นั่นก็คือ…
ประวัติ ความเป็นมา ความเชื่อ
อำพัน จัดเป็น อัญมณีอินทรีย์ ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากชนิดหนึ่ง แต่ในท้องตลาดกลับพบว่ามี อำพันเทียม หรือ วัตถุคล้ายอำพันอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เป็นเพราะคนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าแท้ที่จริงแล้ว อำพัน คืออะไรกันแน่ แท้จริง อำพัน คือ ฟอสซิลของยางไม้โบราณที่มีอายุระหว่าง 20-60 ล้านปี หรือมากกว่านั้น ซึ่งยางไม้เหล่านี้เกิดได้จากพืชหลายชนิด มีองค์ประกอบหลักเป็นคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน ซึ่งอำพันบางเม็ด อาจจะพบซากแมลงหรือซากพืชโบราณฝังตัวติดอยู่ภายในอย่างสวยงาม ตามธรรมชาติสร้างขึ้น
ในสมัยโบราณนั้น เชื่อกันว่า อำพัน บรรจุรวมไว้ด้วยพลังสุริยะ ในสมัยกรีกและโรมันเรียก อัญมณีชนิดนี้ว่า “อิเล็กตรอน” ซึ่งหมายถึง “สิ่งที่เกิดขึ้นจากดวงอาทิตย์” เพราะเห็นว่า อำพัน นอกจากจะมีความแวววาวแล้ว ยังมีพลังประจุไฟฟ้าด้วย เช่นกัน ทำให้ชาวกรีกเชื่อว่า หากผู้ใดนำ อำพัน มาทำเป็นเครื่องประดับตกแต่งร่างกายพลังจาก อำพัน จะช่วยเสริมสร้างพลังชีวิต และช่วยให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง อำพัน พบได้หลากหลาย รูปร่าง ขนาดและความใสสะอาดแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่โปร่งใสถึงทึบแสงบางชนิดสามารถทำเป็นเครื่องประดับได้ โดยไม่ต้องปรับปรุงคุณภาพ แต่บางชิ้นจะต้องผ่านการปรับปรุงคุณภาพเสียก่อนจึงสามารถนำไปเป็นเครื่องประดับได้
อำพัน ส่วนใหญ่มักเจียระไนแบบหลังเบี้ย อำพัน ที่มีความใสสะอาด สามารถจำมาเจียระไนแบบหลังเบี้ย อำพัน ที่มีความใสสะอาด สามารถนำมาเจียระไนเป็นแบบเหลี่ยม ขัดมนได้อย่างเงางาม ส่วนใหญ่มีสีเหลืองหาได้ยากและมีราคาแพงมาก ส่วน อำพัน ขุ่นนั้นเกิดเนื่องจากมีฟองอากาศขนาดเล็กอยู่ในเนื้ออำพันเป็นจำนวนมาก
แหล่งที่พบ "อำพัน"
แหล่งที่พบ อำพัน มากที่สุด คือ ทะเลบอลติกในทิศตะวันตกของคาลินอินกราด ประเทศรัสเซีย ส่วนแหล่งอื่น ๆ ได้แก่ ลิทัวเนีย ลัตเวีย เอสโตเนีย โปแลนด์ เดนมาร์ก นอร์เวย์ อังกฤษ พม่า เลบานอน เม็กซิโก โรมาเนีย เยอรมัน แคนาดา และ สาธารณรัฐโดมินิกัน
ชื่อทางการค้าที่ใช้เรียก "อำพัน" ในท้องตลาด
มักเรียกตามแหล่งที่พบและลักษณะที่ปรากฏดังนี้
อำพันบอลติก(Baltic Amber) พบได้ที่แถบทะเลบอลติก เป็นแหล่ง อำพัน ที่มีอายุเก่าที่สุดและพบอำพันได้มากที่สุด มีหลากหลายช่วงสี ตั้งแต่สีครีมทึบแสงถึงโปร่งสีทองถึงเกือบดำและอาจพบมลทิน ที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว คือ มลทินกระจุกคล้ายเส้นผมเล็ก ๆ อาจมาจากดอกไม้ของต้นโอ๊ก และมลทินแร่ไพไรต์ที่เข้าไปแทรกภายหลังตามรอยแตก
อำพันโดมินิกัน(Dominican Amber) พบได้ที่สาธารณรัฐโดมินิกัน ส่วนใหญ่จะมีลักษณะโปร่งใส สีที่พบคือ เหลืองถึงสีน้ำตาลแกมแดง หรืออาจจะมีสีเหลืองแกมเขียวอ่อน และอาจพบอำพันสีฟ้า ซึ่งมีมูลค่าสูงได้ อำพัน แหล่งนี้อาจพบมลทินสารสีดำปนอยู่เป็นจำนวนมาก
อำพันเม็กซิโก(MexicanAmber) พบได้ที่บริเวณ Chiapas ประเทศเม็กซิโก สีที่พบคือ เหลืองเข้มถึงเหลืองอ่อน สีน้ำตาลถึงแดง อาจพบมลทิน เศษดิน หินสีดำเรียงตัวเป็นเส้นขนาดอยู่ในเนื้อ อำพัน ชนิดนี้มักนิยมนำมาแกะสลัก
อำพันเบอร์ไมต์(Burmite) พบได้ทางตอนเหนือของประเทศพม่า มีความแข็งมากกว่าแหล่งอื่น ๆ จึงสามารถนำไปขัดเงาได้อย่างสวยงามกว่า อำพัน ชนิดอื่น ๆ ช่วงสีที่พบค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ คือ สีครีม สีเหลืองถึงสีน้ำตาลเข้ม และสีแดง อาจพบมลทินเหมือนสายน้ำวนดูแปลกตา ในอำพัน สีแดงบางเม็ด
การเลือกซื้อ "อำพัน" อย่างถูกวิธีมีดังนี้...
อำพันสีเขียว และมีเนื้อใสเป็น อำพัน ชนิดที่หายากและมีมูลค่ามากกว่า อำพัน สีส้มเหลือง ที่พบเห็นได้ทั่วไป การเลือกซื้อต้องระวังการหลอกลวงจากพ่อค้า แม่ค้าทั้งหลายที่ใช้สีเขียวเข้มทาที่ฐานของ อำพัน ที่ประดับไว้บนตัวเรือน ซึ่งจะทำให้เห็นเป็นสีเขียว อำพัน จากธรรมชาติมักจะขุ่น โดยส่วนใหญ่ จะถูกนำมาทำให้ใส โดยใช้ความร้อน
อำพัน ที่มีมูลค่าสูงที่สุด คือ อำพัน ประเภทที่มีซากสัตว์โบราณ หรือซากพืชโบราณ ฝังตัวอยู่ภายในเนื้อ ถ้าซากสัตว์โบราณ หรือซากพืชโบราณมีความสมบูรณ์มากมูลค่าของ อำพัน เม็ดนั้นก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
อำพัน ส่วนใหญ่นิยมนำมาเจียระไนแบบหลังเบี้ย เพื่อที่จะให้เป็นมลทินภายในได้ชัดเจน และบางส่วนก็นิยมนำไปแกะสลัก ซึ่งส่วนใหญ่นิยมนำไปใช้คู่กับเครื่องประดับเงิน
ระวังการเลือกซื้อผิดชนิด!!!
ในท้องตลาดมี อำพัน เลียนแบบมากมาย เช่น มีการนำพลาสติกย้อมสีเหลืองบรรจุซากสัตว์ไว้ภายใน ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตในปัจจุบันเช่น ผีเสื้อ แมงมุม จิ้งจก และแมงป่อง เป็นต้น ซึ่งจะมีแตกต่างจากที่พบใน อำพัน ธรรมชาติ ส่วน อำพัน เลียนแบบอีกชนิดหนึ่งคือ ยางไม้ปัจจุบันที่มี อายุอ่อนกว่าอำพัน เรียกว่า "Copal Resin" วิธีการตรวจสอบแยกอำพัน และ Copal Resin จากอำพันเลียนแบบอื่น ๆ นั้นทำได้โดยการนำไปลอยในน้ำเกลือเข้มข้น ซึ่งมีค่าความถ่วงจำเพาะประมาณ 1.13 อำพันและโคปอลเรซินจะลอยน้ำเกลือ
เนื่องจากมีความถ่วงจำเพาะประมาณ 1.08 ขณะที่แก้ว และพลาสติกซึ่งมีความถ่วงจำเพาะมากกว่าจะจมลงในน้ำเกลือ ส่วนการแยก อำพัน ออกจากโคปอลเรซินนั้น ให้ใช้เอทิลแอลกอฮอล์ ถูที่ผิวประมาณครึ่งนาทีจะพบว่าผิวของ Copal Resin จะเริ่มอ่อนตัวลง ในขณะที่ อำพัน นั้นไม่เกิดปฏิกิริยาใด ๆ อำพันปะ เป็นการนำ อำพันธรรมชาติ มาประกบติดกับอำพันเลียนแบบ ซึ่งอาจพบได้น้อยมากในท้องตลาด
อำพัน ปรับปรุงคุณภาพ อำพัน ที่มีขนาดใหญ่พอที่จะนำไปทำเป็นเครื่องประดับอัญมณีจะเรียกกว่า Block Amber หรือ Reconstructed Amber หรือที่รู้จักในท้องตลาดที่มีชื่อว่า Ambroid อำพัน ที่มีสีขาวขุ่นจากมลทินฟองอากาศขนาดเล็กอยู่ภายใน มักจะนำมาปรับปรุงคุณภาพด้วยความร้อน เช่น ต้มในน้ำมันแล้วปล่อยให้เย็นตัวอย่างรวดเร็วจะทำให้เกิดรอยแตกร้าวเป็นรูปคล้ายแผ่นจาน ซึ่งเกิดจากการแตกของฟองอากาศภายในเนื้อ อำพัน ทำให้สะท้อนแสงภายในเนื้อ อำพันใส เรียกว่า "Sun Spangle"
การดูแลรักษาและข้อควรระวัง "อำพัน"
อำพัน เป็นผลิตผลจากยางไม้ มีความคงทนต่ำ เป็นรอยขีดข่วนที่ผิวค่อนข้างง่าย ทำให้ผิวดูหมอง จึงต้องสวมใส่อย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเสียดสี ควรเก็บ อำพัน แยกจากเครื่องประดับชนิดอื่น ๆ หรือ เก็บรักษาไว้ในภาชนะที่บุด้วยผ้านุ่ม ควรทำความสะอาด อำพัน ด้วยน้ำอุ่นและผ้านุ่ม ๆ อำพัน มีองค์ประกอบทางเคมี เป็นสารอินทรีย์จำไฮโดรคาร์บอน จึงควรหลีกเลี่ยงความร้อน เพราะจะทำให้เกิดความหมอง บางครั้ง อำพัน ได้รับความร้อนสูงและเป็นเวลานาน อาจจะทำให้มลทินภายในเกิดการเปลี่ยนสภาพได้เช่นกัน
บทความนี้น่าจะได้รู้จักอัญมณี ชนิด อำพัน ที่เกิดจากยางไม้ ผสมผสานกับฟอสซิล ซากพืช หรือ ซากสัตว์ กันไปไม่มากก็น้อย นะคับ... บทความหน้าไปทำความรู้จัก อัญมณีอินทรีย์ ชนิดต่อไปกัน...นะคับ
อย่าลืมติดตาม รู้จริงเรื่องอัญมณี กับผมได้ใหม่ในบทความต่อไป นะคับ...
อ่านบทความก่อนหน้า...