ประวัติ ความเป็นมา ความเชื่อ
เพริดอต หรือ เพอริโด “Peridot” มาจากภาษา ละตินแปลว่า สีเขียวมะกอก ในสมัยก่อนเชื่อกันว่า เพริดอต มีพลังในการขับใส่วิญญาณร้าย ภูตผีปีศาจและช่วยคุ้มครอง ผู้สวมใส่ อีกทั้งมีพลังที่ทำให้จิตใจของผู้สวมใส่เข้มแข็ง กล้าหาญอีกด้วย ดังนั้นนักรบสมัยโบราณจึงมักจะพกอัญมณีชนิดนี้ติดตัวไว้เสมอ สีเขียวของเพริดอต มีตั้งแต่ เขียวแกมเหลือง เขียวแกมเทา เขียวแกมน้ำตาล และเขียวใสบริสุทธิ์ (Evening Emerald) ซึ่งจะเป็นสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพริดอต ส่วนใหญ่จะเจียระไนเป็นแบบแฟนซี และมีทั้งรูปไข่สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม หัวใจ หรือรูปแบบแฟนซี และมีทั้งรูปไข่ สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม หัวใจ หรือรูปยอดน้ำ เป็นต้น
ชาวอียิปต์นำผลึก เพริดอต สีเขียวทองมาตัดฝนและขัดให้เป็นลูกปัด เพื่อทำเป็นเครื่องประดับมาตั้งแต่ 1580-1350 ก่อนคริสตกาล ต่อมาถึงยุคพระนางคลีโอพัตรา เพริดอต เป็นอัญมณีชนิดหนึ่งที่พระนางโปรดปราน ในเครื่องประดับของพระนาง มรกตบางเม็ดที่เห็นเป็นสีเขียวมะกอกนั้น ที่แท้คือ เพริดอต นั้นเอง ในศตวรรษที่2 และที่1 ก่อนคริสตกาล นักภูมิศาสตร์ชาวกรีกชื่อ Agatharchides และ Strabo บันทึกไว้ว่า ได้มีการทำเหมือง เพริดอต แห่งแรกบนเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในทะเลแดง ห่างจากฝั่งทะเลของอียิปต์ประมาณ 80 กิโลเมตร เกาะนี้มีชื่อเรียกต่างๆ กันเช่น St. John’s Island หรือ Zebirget ในปัจจุบันเรียกว่า Zabargad ซึ่งเป็นชื่อ เพริดอต ในภาษาอาหรับ ส่วนชาวกรีกและโรมันเรียกเกาะนี้ว่า Tapazios ดังนั้นชื่อเดิมของ เพริดอต จึงเรียกตามชื่อของเกาะซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดว่า “Topazion”
ต่อมาในศตวรรษที่ 18 ชื่อ Topazion จึงเปลี่ยนเป็น “Peridot” โดยยังไม่มีเหตุผลที่อธิบายอย่างชัดเจน คำว่า Peridot อาจมาจากภาษาฝรั่งเศสว่า “Peritot” ชาวอียิปต์โบราณเรียก เพริดอต ว่า “อัญมณีแห่งดวงอาทิตย์” เพราะว่าถ้ามองดู เพริดอต ในแสงอาทิตย์กลางทะเลทราย จะเห็นแสงสะท้อนจาก เพริดอต สว่างเจิดจ้า และเนื่องจากสีของ เพริดอต จะปรากฏเขียวเข้มภายใต้แสงแดดตอนเย็น จึงมีผู้เรียก เพริดอต ว่า “อัญมณียามเย็น” นอกจากจะขุดพบ เพริดอต ตามเหมืองต่าง ๆ แล้ว ยังพบ เพริดอต ในลูกอุกกาบาต ที่มาจากนอกโลก เพริดอต จึงได้ชื่อว่าเป็น “หินจากสวรรค์” อีกด้วย
เพริดอต เป็น 1 ในอัญมณีสำคัญ 12 ชนิดที่ประดับที่เกราะหน้าอกของบาทหลวงในเยรูซาเลมในยุคศาสดาโมเสส ประมาณ 1,200 ปีก่อนคริสตกาล ในระหว่างยุคกลาง ชาวครูเสด ได้นำ เพริดอต กลับไปยุโรปและได้เก็บรักษาไว้ในโบสถ์ในยุโรป ในยุคจักรวรรดิออตโตมัน (ค.ศ.1300-1918) สุลต่านตุรกีสะสม เพริดอต ไว้มากที่สุดในโลก ดังจะเห็นได้จากบัลลังก์ทองประดับ เพริดอต รูปหลังเบี้ยขนาดต่างๆ ถึงขนาด 1 นิ้ว จำนวน 955 เม็ด ซึ่งจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ทอปกาปิ นครอิสตันบุล นอกจากบัลลังก์แล้วมี เพริดอต ที่ยังไม่เจียระไนนับพันก้อนประดับตกแต่งบนผ้าโพกศีรษะ และกล่องหรือหีบอัญมณีอีกด้วย
ช่างทำเครื่องประดับชาวฝรั่งเศสก็ใช้ เพริดอต ทำเครื่องประดับมานานก่อนที่นักแร่วิทยาชาวฝรั่งเศสชื่อ R.J. Haiiy (ค.ศ. 1743-1822) ได้พิสูจน์และประกาศว่า เพริดอต เป็นแร่ชนิดหนึ่ง เพริดอต ที่มีสีเขียวอมเหลืองบางทีก็เรียกว่า “คริโซไลต์” ซึ่งเป็นคำที่มาจากภาษากรีกซึ่งหมายถึง “ทอง” และ “หิน” ในศตวรรษที่ 19 เพริดอต ได้รับความนิยมทั้งในยุโรปและอเมริกา และพลอยดิบ เพริดอต ก็ยังคงได้มาจากเกาะ Zabargad อียิปต์ จนกระทั่งถึงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 19 หลังจากนั้นยังได้ค้นพบ เพริดอต ในอีกหลายประเทศ
ความเชื่อ เพริดอต
มนุษย์จากยุคแรกเรื่อยมาถึงยุคกลางถือว่า เพริดอต เป็นสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์ อัศวินนักรบ ชาวครูเสดถือว่า เพริดอต เป็นสัญลักษณ์ของความฉลาดและความบริสุทธิ์ พระชาวอียิปต์โบราณได้ใช้ เพริดอต ในพิธีกรรมทางศาสนา เพื่อปลุกเร้าอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ใน เพริดอต ในช่วงเวลาต่อมาชาวกรีกเชื่อว่า เพริดอต ทำให้ผู้สวมใส่มีเกียรติและศักดิ์ศรีสูง มาร์โบด ได้บันทึกไว้ว่า ถ้านำ เพริดอต มาผูกด้วยขนลาแล้วนำไปพันรอบแขนซ้าย ก็จะช่วยปกป้องให้ปลอดภัยจากภูตผีปีศาจชั่วร้ายได้ เพริดอต ยังช่วยให้ผู้สวมใส่คลลายความกังวลและช่วยให้ความสัมพันธ์กับคู่รักสำเร็จนำไปสู่การแต่งงาน เพริดอต ทำให้ผู้สวมใส่โชคดี ประสบความสำเร็จ และมีสันติสุข เพริดอต ยังเป็นอัญมณีประจำเดือนเกิด เดือนสิงหาคม และใช้เป็นของขวัญในวันครบรอบแต่งงานปีที่ 16 อีกด้วย
แหล่งที่พบ เพริดอต
แหล่งที่พบ ได้แก่ เกาะเซนต์จอห์นในทะเลแดง พม่า แอริโซนา ประเทศอเมริกา ออสเตรเลีย รัสเซีย จีน ไทย นอร์เวย์ บราซิลและปากีสถาน สำหรับประเทศไทยสามารถพบ เพริดอต ได้ที่ แพร่ กาญจนบุรี จันทบุรี และตราด เป็นต้น
คุณภาพและชื่อทางการค้า
เพริดอต ส่วนมากมักมีเนื้อใสสะอาดมองเห็นตำหนิได้ยากถ้า เพริดอต ที่มีตำหนิมลทิน คุณภาพก็จะด้วยลงมา ซึ่งมลทินเฉพาะตัวของ เพริดอต มีลักษณะเป็นรอยแตกภายในเนื้อคล้ายใยบัว เรียกกว่า “มลทินรอยแตกคล้ายใบบัว” มักพบมลทินแร่โครไมต์เป็นจุดศูนย์กลางของรอยแตกด้วย
การเลือกซื้อเพริดอต
สีของ เพริดอต ขึ้นอยู่กับความชอบความพอใจของแต่ละคน สีที่นิยมกันมากจะเป็นสีเขียวที่มีความเข้มสด ไม่อ่อนเกินไปหรือเข้มจนเหมือนสีใบไม้แก่ ถ้ามีสีน้ำตาลปนจะทำให้ราคาตกลงตามปริมาณสีน้ำตาลที่ปน สีเขียวเพริดอตมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนสีเขียวของ มรกตหรือการ์เน็ต ซาวอไรต์ หรือ ทัวร์มาลีนสีเขียว แม้ว่าลักษณะของเนื้อพลอยจะคล้ายกันมากก็ตาม
เพริดอต มักจะมีเนื้อใสสะอาดมองเห็นมลทินตำหนิได้ยากแต่นักสะสมอัญมณีมักหาซื้อ เพอริดอต ที่มีมลทินรอยแตกคล้ายใบบัวเนื่องจากเป็นเอกลักษณ์ของ เพริดอต ที่มีความสวยงามตามธรรมชาติมีการเจียระไนได้สมมาตรทุกด้านความลึกของกันพลอยไม่มากหรือน้อยเกินไป ซึ่งถ้าความลึกของก้นพลอยไม่เหมาะสมจะทำให้ เพริดอต มีประกายไม่สวยงาม
เพริดอต ควรมีประกายสดใสผิวพลอยขัดเป็นมันวาวและไม่มีรอยขูดขีดหรือรอยกะเทาะแตกใด ๆ
การดูแลรักษาและข้อควรระวัง
"เพริดอต"
เพริดอต มีความแข็งค่อนข้างต่ำ ควรแยกเก็บในกล่องที่มีผ้านุ่มรองหรือใส่ถุงผ้า ไม่ควรเก็บรวมไว้กับเครื่องประดับอัญมณีชนิดอื่น ซึ่งอาจจะทำให้เกิดรอยขูดบนผิวของ เพริดอต ได้ไม่ควรให้โดนกรด เช่น กรดซัลฟูริกและกรดไฮโดรคลอริก เนื่องจาก เพริดอต มีปฏิกิริยาต่อกรด จะทำให้เกิดความเสียหายได้ และไม่ควรสวมใส่เครื่องประดับ เพริดอต ทำกิจกรรมที่มีแรงกระแทก เช่น การออกกำลังกาย หรือทำงานบ้านต่าง ๆ เนื่องจากแรงกระแทกจากการทำกิจกรรมอาจทำให้เกิดรอยร้าว หรือ เพริดอต อาจหลุดหายได้ การทำความสะอาด เพริดอต ให้ใช้น้ำยาล้างเครื่องประดับ หรือสบู่เหลวอ่อน ๆ ผสมน้ำอุ่น และใช้แปรงขนนุ่มปัดทำความสะอาดตามซอกมุมต่าง ๆ หลังจากนั้นให้ผ้านุ่มสะอาดซับ ผึ่งลมหรือเปล่าให้แห้ง ไม่ล้างด้วยเครื่องทำความสะอาดแบบอัลตราโซนิก
อย่าลืมติดตาม รู้จริงเรื่องอัญมณี กับผมได้ใหม่ในบทความหน้านะคับ...
อ่านบทความก่อนหน้า...