บทความนี้ผมจะพามารู้จักกับอัญมณีอีกตระกูลหนึ่งที่มีคุณสมบัติพิเศษทางแสง ที่เกิดจากการเหลือบสีที่ผิวพลอยอย่างสวยงาม และเป็นอัญมณีที่ถูกนำมาทำเครื่องประดับในอดีตมานานถึง 5,000 กว่าปีมาแล้ว หรือที่คนไทยเรียกว่า "แร่เฟลด์สปาร์หรือแร่ฟันม้า" นั่นเองคับ...
ประวัติ ความเป็นมา ความเชื่อ
เฟลด์สปาร์ หรือ แร่ฟันม้า เป็นชื่อตระกูล ของแร่กลุ่มซิลิเกต ที่พบเป็นแร่ประกอบหินมากที่สุดของหินอัคนีบนเปลือกโลกถึงร้อยละ 50-60 เฟลด์สปาร์ มีองค์ประกอบเคมีหลักคือ อะลูมิเนียม ออกซิเจน และซิลิกา นอกจากนั้นยังมีโพแทสเซียม แคลเซียม และโซเดียม อีกด้วย ซึ่งการปรากฏของธาตุทั้ง 3 ชนิดในสัดส่วนต่าง ๆ นั้น ก่อให้เกิดความแตกต่างและความหลากหลายของเฟลด์สปาร์ พลอยตระกูล เฟลด์สปาร์ มีค่าความแข็งตามสเกลของโมส์เท่ากับ 6-6.5
สามารถจัด เฟลด์สปาร์ ออกได้ 2 กลุ่ม ตามชนิดขององค์ประกอบทางเคมี คือ
โพแทสเซียมเฟลด์สปาร์ มีโพแทสเซียมเป็นองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ ออร์โทเคลส และไมโครไคลน์
แพลจิโอเคลสเฟลด์สปาร์ เป็น เฟลด์สปาร์ ที่มีแคลเซียมและโซเดียมเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ มีหลายชนิดตั้งแต่แอลไบต์ ซึ่งมีปริมาณโซเดียมสูง ไล่ไปจนถึงอะนอไทต์ ซึ่งมีปริมาณแคลเซียมสูง
นอกจากนี้ยังมี เฟลด์สปาร์ ที่มีส่วนประกอบอยู่ระหว่างแอลไบต์และอะนอไทต์อีกหลายชนิด แต่ในที่นี้ผมจะขอกล่าวถึงเฉพาะเฟลด์สปาร์ที่นิยมนำมาใช้ทำเครื่องประดับ ดังนี้...
มุกดาหาร (Moonstone) เป็นพลอยในกลุ่มโพแทสเซียมเฟลด์สปาร์ ชนิดออร์โทเคลส มีลักษณะกึ่งโปร่งใส พบได้หลายสี เช่น ขาว เทาแกมฟ้า เหลือง เป็นต้น และยังเป็นพลอยที่อยู่ในตำนานพลอยนพเก้า มักมีลักษณะเหลือบแสงสีขาวหรือฟ้าเคลื่อนไปมาบนผิวโค้งที่เจียระไนหลังเบี้ย ที่เรียกว่า Adularescence ซึ่งเกิดจากการสอดแทรกกันของแสงที่สะท้อนจากโครงสร้างภายในที่ชั้นบางมากสลับกันอยู่
มุกดาหารบางเม็ดอาจแสดงลักษณะตาแมวด้วย เรียกว่า Cat’s eye moonstone ถ้าแสดงแนวเหลือบแสง 2 แนวตัดกันเรียกว่า Star moonstone มลทินที่เป็นลักษณะเฉพาะของ มุกดาหาร มีลักษณะคล้ายตะขาบ เรียกว่า Centipede เกิดจากการตัดกันของแนวแตกเรียบกับแนวรอยต่อของชั้น เฟลด์สปาร์ ที่แทรกสลับกัน
นอกจากนี้อาจพบมลทินแท่งเข็ม มลทินคล้ายท่อที่วางตัวขนานกัน มลทินลายนิ้วมือ ในสมัยก่อน ชาวฮินดูเชื่อว่า มุกดาหาร เป็นอัญมณีที่เกิดจากแสงแห่งดวงจันทร์ เนื่องจากมีลักษณะเหลือบแสงที่ผิวเมื่อแสงส่องกระทบ ทำให้ดูสว่างนวลคล้ายแสงจันทร์ เชื่อกันว่ามุกดาหารจะนำมาซึ่งโชคลาภแก่ผู้สวมใส่ สร้างความละเอียดอ่อนทางอารมณ์และความรู้สึก โชคดีเรื่องความรัก ขจัดพิษร้าย ป้องกันสัตว์ร้ายได้
มุกดาหาร มีการปรับปรุงคุณภาพ โดยการเคลือบด้านหลังด้วยสารไดโครอิก เพื่อทำให้เหลือบแสงสวยขึ้น หรือการเผาด้วยความร้อนไม่สูงมากนัก ก็จะทำให้การเหลือบแสงสวยขึ้นเช่นกัน เนื่องจากทำให้ชั้นของแอลไบต์บางลง แต่เป็นวิธีที่ไม่นิยม เพราะอาจทำให้มุกดาการเสียหายได้
แหล่งที่พบ "มุกดาหาร"
แหล่ง มุกดาหาร ที่มีคุณภาพดี พบที่ พม่าและศรีลังกาแหล่งอื่น ๆ ได้แก่ อินเดีย มาดากัสการ์ บราซิล อเมริกา และแทนซาเนีย
แอมะซอไนต์(Amazonite) เป็นพลอยในกลุ่มโพแทสเซียมเฟลด์สปาร์ชนิดไมโครไคลน์ สีที่พบได้แก่สีเขียวอ่อนปนเหลืองหรือเขียวแกมฟ้า มักแสดงแนวเส้นสีขาวเล็ก ๆ ตัดกันเป็นตาข่ายและมีการเหลือบแสงเล็กน้อย ซึ่งการเหลือบแสงเกิดเนื่องจากชุดของแนวแตกเรียบนั้นเอง เรียกลักษณะการเหลือบแสงนี้ว่า ชิลเลอร์อะมะซอไนต์ อาจทำการปรับปรุงคุณภาพโดยการเคลือบด้วยขี้ผึ้ง เพื่อเพิ่มความเงางาม และในบางครั้งอาจนำไมโครไคลน์สีขาวไปอาบรังสี เพื่อทำให้ได้เป็นสีเขียวน้ำเงินคล้ายกับแอมะซอไนต์
แหล่งที่พบแอมะซอไนต์ พบได้ที่ประเทศ อินเดีย บราซิล พม่า ศรีลังกา มาดากัสการ์ อเมริกา และรัสเซีย
ซันสโตน(Sunstone) หรือสุริยกานต์ มักเป็นพลอยในกลุ่มแพลจิโอเคลสเฟลด์สปาร์ ที่แสดงปรากฏการณ์การสะท้อนแสงระยิบระยับ หรือเรียกเฟลด์สปาร์ชนิดนี้ว่า Aventurine Feldspar ลักษณะเด่นของอัญมณีชนิดนี้คือ แสดงการสะท้อนแสงระยิบระยับ เมื่อมีแสงมากระทบ มีสุริยกานต์เลียนแบบที่ทำมาจากแก้วเนื่องจากภายในประกอบด้วยมลทินของแผ่นทองแดง รูปสามเหลี่ยม หรือหกเหลี่ยม เมื่อสะท้อนไฟก็จะเห็นแสงระยิบระยับคล้ายซันสโตน เรียกว่า โกลด์สโตนหรือศิลาทอง ซึ่งมีได้หลายสีเนื่องจากมีการเติมสีเข้าไป เช่น น้ำตาลแตง น้ำเงินม่วง เป็นต้น พบว่าพลอยชนิดนี้สีน้ำเงินอาจนำไปใช้เลียนแบบ Lapis lazuli ได้อีกด้วย
แหล่งที่พบซันสโตน
แหล่งที่สำคัญได้แก่ อเมริกา แคนาดา นอร์เวย์ และอินเดีย
แลบราดอไรต์(Labradorite) มีชื่อมาจากคำว่า Labrador แร่ชนิดนี้ แลบราดอไรต์ เป็นพลอยในกลุ่มแพลจิโอเคลสเฟลด์สปาร์ ที่มีโซเดียมและแคลเซียมเป็นองค์ประกอบหลัก มีแนวแตกเรียบ 2 แนว ไม่ตั้งฉากกัน มีสีดำ เทา ขาวขุ่น น้ำตาล สีของพลอยมักได้มาจากมลทินต่าง ๆ และมักพบร่องขนาดเล็กวางตัวขนานกันอย่างเห็นได้ชัด และมีลักษณะประกายการเล่นแสงสีรุ้งหรือฟ้าเขียวเคลื่อนที่ไปมาเมื่อขยับพลอย ปรากฏการณ์ทางแสงนี้เรียกว่า Labradorescence
แหล่งที่พบแลบราดอไรต์ พบที่แคนาดา สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย
การเลือกซื้อ "เฟลด์สปาร์"
เฟลด์สปาร์ เป็นพลอยเนื้ออ่อน เนื้อของอัญณีควรเรียบงาม ไม่มีตำหนิจุดดำหรือริ้วรอยแตกร้าว เฟลด์สปาร์ ที่เจียระไนแบบหลังเบี้ยต้องแสดงปรากฏการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน ดังนั้นการเจียระไนต้องตัดฐานของหลังเบี้ย ให้ขนานกับด้านของแร่ที่แสดงประกายมากที่สุด และหน้าพลอยต้องมีความนูนงามพอควร เมื่อขึ้นตัวเรือนเครื่องประดับแล้วจะได้สัดส่วนที่สวยงามมาก
เฟลด์สปาร์ มักเป็นพลอยที่มีปรากฏการณ์ต่าง ๆ โดยในชนิดที่ใสและไม่พบปรากฏการณ์ สามารถเจียระไนเป็นหน้าเหลี่ยมต่าง ๆ ได้ เช่น ออร์โทเคลส แลบราดอไรต์บางชนิด สำหรับเฟลด์สปาร์ที่มีปรากฏการณ์ต่าง ๆ สามารถเจียระไนแบบหลังเบี้ยได้ โดยให้ฐานของหลังเบี้ยขนาดกับระนาบของมลทินและมลทินต้องไม่อยู่ลึกจากผิวโค้งของหลังเบี้ยมากนัก เช่น สุรยกานต์ มุกดาหาร สำหรับ แลบราดอไรต์ อาจขัดหน้าเรียบมันหรือเจียระไนแบบหลังเบี้ยก็ได้ อาจจะตบแต่งเพิ่มได้โดยการตัดหน้าที่ทำมุมเพียงเล็กน้อยกับหน้าตัดแรก ซึ่งอาจจะทำให้ลักษณะของการเล่นแสงดียิ่งขึ้น
การดูแลรักษาและข้อควรระวัง
"เฟลด์สปาร์"
เนื่องจากเป็นพลอยเนื้ออ่อน ต้องระวังการกระทบกระแทก เพราะอาจจะบิ่น มีรอยหรือแตกร้าวได้ง่าย เมื่อใช้ไปนาน ๆ อาจขุ่นมัว ต้องนำไปขัดเงาใหม่ เพื่อให้อัญมณียังคงสวยสดเช่นเดิม
อัญมณีถือเป็นสิ่งอัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ ไว้ให้โลกได้ชื่นชมความงามตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน อัญมณีในโลกใบนี้มีอยู่หลากหลายชนิด จนทำให้เราเกิดการสับสนว่าอัญมณีแต่ละชนิดอยู่ ใน กลุ่ม ตระกูลไหนกันแน่ และเราจำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานก่อนทำการเลือกซื้ออัญมณีที่เราชื่นชอบ ควรระวังอัญมณีสังเคราะห์หรือลอกเลียนแบบทุกชนิดเป็นพิเศษนะคับ
อย่าลืมติดตาม รู้จริงเรื่องอัญมณี กับผมได้ใหม่ ในบทความหน้า...นะคับ
อ่านบทความก่อนหน้า...