บทความนี้ผมจะพามารู้จักกับอัญมณีอีกชนิดหนึ่ง ที่เป็นที่นิยมในหมู่นักอัญมณีที่ชื่นชอบอัญมณีสีเขียว ซึ่งเป็นพลอยในตระกูลเนื้อแข็ง เหมือนกันกับ ทับทิม ไพลิน บุษราคัม นั่นก็คือ "เขียวส่อง (Green Sapphire)
พลอยเขียวส่อง หรือ กรีนแซฟไฟร์ จัดอยู่ในกลุ่มอัญมณีประเภทคอรันดัม ซึ่งมีความแข็งระดับ 9 เป็นรองแค่เพชร เมื่อเทียบจากความแข็งตามมาตรวัดของโมส์ (Mosh) เขียวส่อง หรือที่เรียกว่า “Green Sapphire” พบได้ในธรรมชาติเป็นแร่เดียวกับ ทับทิม ไพลิน บุษราคัม แซปไฟร์ สีเขียวออมน้ำเงินหรือ อมเหลืองเล็กน้อย มีน้ำหนักสีปานกลาง เมื่อส่องดูกับแสงไฟจึงจะเห็นสีเขียวชัด จึงเรียก แซปไฟร์ นี้ว่า “เขียวส่อง”ถ้า แซปไฟร์ มีสีเขียวอมเหลือง ชาวจันทบุรี เรียกว่า “เขียวบางกะจะ” หรืออีกชื่อหนึ่งที่ชาวจันทบุรีเรียกกันก็ คือ มรกตจันท์ ปัจจุบันพลอยเขียวส่องยังสามารถหาได้จากแหล่งพลอยธรรมชาติ ตำบลบางกะจะ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งถือว่านับวันยิ่งเหลือลดน้อยลง ถ้าแซปไฟร์สีเขียวไม่มีสีน้ำเงินปนอยู่เลยจะสวยและเป็นที่นิยม ส่วนแซปไฟร์สีเขียวตองอ่อน สดใส มองดูคล้ายมรกต แต่ไม่ใช่มรกตจริง มักเรียกว่า “มรกตตะวันออก” (Oriental Emerald)
แหล่งกำเนิดเขียวส่อง : คือ จังหวัดจันทบุรี ตำบลบางกะจะ
ประวัติของ แซฟไฟร์ มีการค้นพบหลักฐานว่า ชาวอีทรัสกัน เริ่มใช้ แซฟไฟร์ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล ต่อมาเมื่อประมาณกว่า 1,000 ปีที่ผ่านมาได้พบบันทึกของนักธรรมชาติวิทยาชาวกรีก ชื่อ เทโอฟราสทัส และ ไพลนี (ค.ศ. 23-79) นักปราชญ์ชาวโรมัน ได้เขียนยกย่องชื่นชมอัญมณีหลากสีที่เขาใช้คำว่า ไฮย์อะซิน ซึ่งคำนี้ในปัจจุบันเชื่อกันว่าหมายถึง "แซฟไฟร์"
คำว่า แซฟไฟร์ มีรากศัพท์มาจากภาษาโบราณหลายภาษา เช่น ภาษาอาระบิก คือ คำว่า “Safir” แปลว่า “อันเป็นที่รักยิ่งของดาวพระเสาร์” ภาษาลาตินคือ คำว่า “Sapphirus” แปลว่า สีน้ำเงิน และภาษากรีก คือคำว่า “Sappheiros” ซึ่งเป็นชื่อของเกาะชื่อ “Sappherine” ในทะเลอาระเบียน ซึ่งเป็นแหล่งที่พบ แซฟไฟร์ ในสมัยกรีก ชาวเปอร์เซียน เรียก แซฟไฟร์ ว่า หินจากสวรรค์
คำว่า แซฟไฟร์ ยังใช้เรียกหินสีน้ำเงินลาพิสลาซูลี (Lapis Lazuli) มาจนกระทั่งยุคกลางในยุโรปซึ่งบรรดากษัตรย์นิยมใช้ แซฟไฟร์ ประดับหัวแหวนและเข็ดกลัด ในยุคนั้นจึงเรียก แซฟไฟร์ ว่า “Royal Stone” หรือหินของกษัตริย์” เพราะสีน้ำเงินเป็นสีของท้องฟ้าซึ่งเชื่อกันในยุคนั้นว่า สวรรค์เป็นแหล่งพลังอำนาจ
นอกจากนั้น ยังใช้ แซฟไฟร์ ประดับแหวนที่ใช้ในกิจการเกี่ยวกับศาสนา ในยุคเรเนอซอง แซฟไฟร์ เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้มีอันจะกิน และใน ค.ศ. 1981 แซฟไฟร์ ก็ได้รับการกล่าวขานกันไปทั่วโลกเมื่อเจ้าฟ้าชายชาร์ลทรงสวมแหวนหมั้นแซปไฟร์แก่พระคู่หมั้น นางสาวไดอานา ซึ่งเมื่อเสกสมรสแล้วได้รับสถาปนาเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์
สัญลักษณ์และความเชื่อ
แซฟไฟร์ เป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์หรือความจริง ความมั่นคง หรือความแน่วแน่ พระคัมภีร์ไบเบิลฉบับเก่า ได้ระบุไว้ว่า แซฟไฟร์ เป็นอัญมณี 1 ใน 12 อัญมณีพื้นฐานที่มีพลังอำนาจมากที่สุดจึงใช้ประดับที่เกราะหน้าอกของบาทหลวง การสวมใส่อัญมณีแต่ละชนิดในแต่ละเดือนทำให้เกิดสิริมงคล เช่น ตำนานเก่าแก่ของชาวฮินดูกล่าวไว้ว่า แซฟไฟร์ เป็นอัญมณีสำหรับผู้ที่เกิดเดือน กรกฎาคม และเชื่อว่าแซปไฟร์เป็นอัญมณีประจำราศีพฤษภ กลุ่มดาวรูปโค หรือผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 21 เมษายน- 21 พฤษภาคม
แต่ชาวอาหรับเชื่อว่า แซฟไฟร์ เป็นอัญมณีของผู้ที่เกิดราศีเมถุน กลุ่มดาวรูปคนคู่หรือผู้ที่เกิดระหว่าง วันที่ 22 พฤษภาคม- 21 มิถุนายน ต่อมาในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1912 ได้มีการประชุมสมาคมผู้ค้าเครื่องประดับแห่งชาติที่เมืองแคนซัส ได้มีการกำหนดอัญมณีประจำเดือนเกิดสมัยใหม่ขึ้น ทำให้ แซฟไฟร์ เป็นอัญมณีประจำเดือนประจำเดือน กันยายน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แซฟไฟร์ เป็นอัญมณีที่เป็นมงคลสำหรับงานฉลองครบรอบแต่งงานปีที่ 5 หรือ 45 นอกจากนั้นยังเชื่อกันอีกว่า แซฟไฟร์ ช่วยให้ผู้สวมใส่มีสายตาดีขึ้น รวมทั้งเห็นอนาคต
เป็นเวลานับพันปีมาแล้วที่มนุษย์เชื่อพลังอำนาจของ แซฟไฟร์ มีหลักฐานมากมาย อาทิ ตำนานกล่าวถึงกษัตริย์ ดิเกรอน ว่าแซปไฟร์ได้ป้องกันพระองค์จากอันตรายและความอิจฉาตามคำบอกเล่าของมาร์โบด ในศตวรรษที่ 11 พลังอำนาจของ แซฟไฟร์ ยังรวมถึงอำนาจขับไล่หรือป้องกันการฉ้อฉลหลอกลวง และป้องกันความน่ากลัวและการก่อการร้ายรวมทั้งอำนาจปกป้องผู้สวมใส่จากยาพิษและวิญญาณชั่วร้าย
หลังจากนั้นประมาณ 200 ปี เอกสารบันทึกเรื่องราวของชาวฝรั่งเศสได้รายงานว่า แซฟไฟร์ มีพลังอำนาจป้องกันความยากจน ส่วนช่างเจียระไนอัญมณีในยุคเดียวกันนั้นกล่าวว่า แซฟไฟร์ ทำให้คนโง่เป็นคนฉลาด ทำให้คนที่ฉุนเฉียวง่ายเปลี่ยนเป็นคนอารมณ์ดีและเป็นยังเป็นอัญมณีที่นำความสงบสุขและความรุ่งโรจน์มาสู่ผู้สวมใส่อีกด้วย
สำหรับบทความนี้ น่าจะถูกใจสำหรับท่านที่ชอบแซฟไฟร์สีเขียว ซึ่งเป็นพลอยเนื้อแข็ง ในตระกูลคอรันคัม เช่นเดียวกับ ทับทิม กันนะคับ...
อย่าติดตาม รู้จริงเรื่องอัญมณี กับผมได้ใหม่ในบทความหน้านะคับ...
อ่านบทความก่อนหน้า...