บทความนี้ผมจะพามารู้จัก อัญมณีสีเหลือง อีกชนิดหนึ่ง ที่เรียกกันคุ้น ๆ หู คือ เหลืองใสสด หรือ บุษราคัม (YELLOW SAPPHIRE) ซึ่งเป็นหนึ่งในตำนานนพเก้า นั่นเองคับ...
ประวัติ ความเป็นมา ความเชื่อ
"บุษราคัม"
ในอดีต “บุษราคัม” เป็นชื่อที่คนไทยใช้เรียก โทแพซสีเหลือง (Yellow Topaz)ในปัจจุบัน บุษราคัม หมายถึง แร่คอรันดัม ชนิดสีเหลืองหรือ แซฟไฟร์สีเหลือง (Yellow Sapphire) บุษราคัม จึงเป็นแร่ประเภทเดียวกับทับทิมและไพลิน มีค่าความแข็งตามสเกลของโมส์เท่ากับ 9 และเป็นอัญมณีที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน โดยทั่วไป บุษราคัม มีมลทินค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับทับทิมและแซปไพร์สีอื่น ๆ สีเหลืองของ บุษราคัม อาจเกิดได้จากธาตุเหล็กหรือจากศูนย์กลางสี หากมีสีเหลืองสุดสวยประกายแวววาวและใสสะอาด อาจมีราคาสูงเท่ากับไพลินหรืออาจสูงกว่าได้ บุษราคัม มักผ่านการเผ่าเพื่อให้สีสวยขึ้นและเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป บุษราคัมนิยมเจียระไนเป็นแบบเหลี่ยมผสม บุษราคัม ที่มีชื่อเสียงและมีขนาดใหญ่พบในประเทศออสเตรเลีย ได้แก่ Anderson’s (Willows) Yellow น้ำหนักก้อนดิบ 218 กะรัต Golden Willow (Golden Queen) น้ำหนักก้อนดิบ 322 กะรัต และ Australian Sun น้ำหนักก้อนดิบ 396 กะรัต
แซฟไฟร์ เป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์หรือความจริง ความมั่นคง หรือความแน่วแน่ พระคัมภีร์ไบเบิลฉบับเก่า ได้ระบุไว้ว่า แซฟไฟร์ เป็นอัญมณี 1 ใน 12 อัญมณีพื้นฐานที่มีพลังอำนาจมากที่สุด จึงใช้ประดับที่เกราะหน้าอกของบาทหลวง การสวมใส่อัญมณีแต่ละชนิดในแต่ละเดือนทำให้เกิดสิริมงคล เช่น ตำนานเก่าแก่ของชาวฮินดูกล่าวไว้ว่า แซฟไฟร์ เป็นอัญมณีสำหรับผู้ที่เกิดเดือน กรกฎาคม และเชื่อว่าแซปไฟร์เป็นอัญมณีประจำราศีพฤษภ กลุ่มดาวรูปโค หรือผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 21 เมษายน- 21 พฤษภาคม
แต่ชาวอาหรับเชื่อว่า แซฟไฟร์ เป็นอัญมณีของผู้ที่เกิดราศีเมถุน กลุ่มดาวรูปคนคู่หรือผู้ที่เกิดระหว่าง วันที่ 22 พฤษภาคม- 21 มิถุนายน ต่อมาในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1912 ได้มีการประชุมสมาคมผู้ค้าเครื่องประดับแห่งชาติที่เมืองแคนซัส ได้มีการกำหนดอัญมณีประจำเดือนเกิดสมัยใหม่ขึ้น ทำให้ แซฟไฟร์ เป็นอัญมณีประจำเดือนประจำเดือน กันยายน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แซฟไฟร์ เป็นอัญมณีที่เป็นมงคลสำหรับงานฉลองครบรอบแต่งงานปีที่ 5 หรือ 45 นอกจากนั้นยังเชื่อกันอีกว่า แซฟไฟร์ ช่วยให้ผู้สวมใส่มีสายตาดีขึ้น รวมทั้งเห็นอนาคต
เป็นเวลานับพันปีมาแล้วที่มนุษย์เชื่อพลังอำนาจของ แซฟไฟร์ มีหลักฐานมากมาย อาทิ ตำนานกล่าวถึงกษัตริย์ ดิเกรอน ว่า แซฟไฟร์ ได้ป้องกันพระองค์จากอันตรายและความอิจฉาตามคำบอกเล่าของมาร์โบด ในศตวรรษที่ 11 พลังอำนาจของ แซฟไฟร์ ยังรวมถึงอำนาจขับไล่หรือป้องกันการฉ้อฉลหลอกลวง และป้องกันความน่ากลัวและการก่อการร้าย รวมทั้งอำนาจปกป้องผู้สวมใส่จากยาพิษและวิญญาณชั่วร้าย หลังจากนั้นประมาณ 200 ปี เอกสารบันทึกเรื่องราวของชาวฝรั่งเศสได้รายงานว่า แซฟไฟร์ มีพลังอำนาจป้องกันความยากจน ส่วนช่างเจียระไนอัญมณีในยุคเดียวกันนั้นกล่าวว่า แซฟไฟร์ ทำให้คนโง่เป็นคนฉลาด ทำให้คนที่ฉุนเฉียวง่ายเปลี่ยนเป็นคนอารมณ์ดี และเป็นยังเป็นอัญมณีที่นำความสงบสุขและความรุ่งโรจน์มาสู่ผู้สวมใส่อีกด้วย
แหล่งที่พบ "บุษราคัม"
แหล่งบุษราคัมที่สำคัญในปัจจุบัน ได้แก่ ศรีลังกา ไทย มาดากัสการ์ แทนซาเนีย ออสเตรเลีย เป็นต้น ในประเทศไทย แหล่งบุษราคัม อยู่ในจังหวัดจันทบุรีและกาญจนบุรี แต่บุษราคัมสีเหลืองตามธรรมชาติ มีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยมากจนแทบไม่มีในปัจจุบันอาจนำไพลินสีเข้มหรือแซปไฟร์สีเขียวไปเผาด้วยกระบวนการที่ใช้สารเบริลเลียมทำให้ได้สีเหลืองสวยงาม และออกสู่ตลาดในจำนวนไม่น้อย
ชื่อทางการค้า ที่เรียก "บุษราคัม" ในท้องตลาด
พลอยน้ำบุษร์ อาจมีสีคล้ายสีน้ำชาแก่ ๆ สีขมิ้นเน่า สีดอกจำปา สีน้ำเหล้าแม่โขง ซึ่งเป็นสีที่นิยมมากและมีราคาแพง หากมีสีเขียวปนในเนื้อ เรียกว่า “บุษร์น้ำแตง”
บุษราคัม ที่มีสีเหลืองทอง ได้รับความนิยมและมีราคาแพง ไม่แพ้กัน เรียกว่า “บุษร์น้ำทอง”
การเลือกซื้อ "บุษราคัม"
สีที่สวยของ บุษราคัม คือ สีเหลืองสด ไม่มีสีน้ำตาล ส้ม หรือเขียวปน มีโทนสีปานกลาง สีมีความสดไม่เข้มไม่อ่อนจนเกินไป บุษราคัม ที่มีการซื้อขายในท้องตลาดมักมาจากแหล่งจันทบุรี ซึ่งมักมีสีน้ำตาลปนทำให้มีสีเหลืองแกมน้ำตาลคล้ายสีของสุราแม่โขง หรือเรียกว่า "สีเหลืองเหล้าแม่โขง" ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่คนไทยจึงมีราคาแพง ส่วน บุษราคัม จากศรีลังกาหรือซีลอน จะมีสีเหลืองแกมส้ม สีเหลืองทอง ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากการนำพลอยก้อนสีขาวขุ่นที่มีจุดสีเหลืองมาเผาจนได้พลอยสีเหลืองดังกล่าว และมีราคาแพง เช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมี บุษราคัมศรีลังกา ซึ่งมีสีใสหรือสีขาวมีเหลืองปนเล็กน้อย ที่ผ่านการอาบรังสีทำให้มีสีเหลืองเข้มขึ้น แต่สีจะไม่คงทนถาวรและไม่เป็นที่ยอมรับ การแยกระหว่างบุษราคัมศรีลังกาหรือซีลอนเผาสีเหลืองและ บุษราคัมซีลอนอาบรังสี ทำได้โดยใช้หลอดไฟกำลัง 100 วัตต์ ส่องตรงไปที่พลอยนั้น โดยให้มีระยะห่างพลอยประมาณ 1 นิ้ว ใช้เวลาประมาณ 15 นาที หากเป็นบุษราคัมซีลอนเผา สีเหลืองจะเข้มขึ้นจนกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มและจะกลับเป็นสีเดิมเมื่อปล่อยให้เย็นลง ส่วนบุษราคัมสีเหลืองอาบรังสี สีเหลืองจะจางลงจนซีดหายไปและสีจะไม่กลับคืนมาอีก
ปัจจุบันยังพบว่ามีการนำคอรันดัมไร้สีหรือสีอ่อน สีเขียว น้ำเงินแกมเขียว หรือสีน้ำเงิน ไปเผาโดยใช้สารเบริลเลียมเพื่อให้ได้ บุษราคัม ที่มีสีเหลืองในเฉดสีต่าง ๆ ได้เป็นที่ต้องการของตลาด มลทินของ บุษราคัม ไทยพบน้อยมาก อาจพบเป็นเส้นเข็มเล็กละเอียดตัดกันที่เรียกว่า “ไหม (silk)” ส่วนมลทินใน บุษราคัมศรีลังกา มักมีลักษณะคล้ายเข็มหรือคล้ายฝุ่น กระจายตัวอยู่ในเนื้อ ควรตรวจสอบดูมลทินภายใต้กล้องจุลทรรศน์โดยผู้ที่มีความชำนาญเท่านั้น
ระวังเลือกซื้ออัญมณีผิดชนิด!!! กันนะคับ อาจเข้าใจผิดหรือถูกหลอกให้ซื้ออัญมณีสีเหลืองชนิดอื่นที่ไม่ใช่ บุษราคัม เช่น ควอตซ์สีเหลือง(ซิทริน) เบริลสีเหลือง โทแพซสีเหลือง และ การ์เนตสีเหลือง เป็นต้น ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อจากผู้ขายที่รู้จักหรืออาจตรวจสอบให้แน่ใจก่อนซื้อ โดยทั่วไปการตรวจสอบ บุษราคัมสังเคราะห์ ทำได้ยากและบุษราคัมธรรมชาติมักไม่มีมลทินที่เด่นชัด ยกเว้นบางครั้งที่อาจพบมลทินได้บ้าง ส่วน บุษราคัมสังเคราะห์ มักจะใสไร้มลทิน อาจพบมลทินเส้นโค้ง(ซึ่งหายากมากเช่นกัน) อยู่ในเนื้อพลอย ดังนั้น ควรส่งให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญตรวจสอบจะดีกว่า...คับ
การดูแลและข้อควรระวัง "บุษราคัม"
ไม่ควรเก็บเครื่องประดับ บุษราคัม ไว้รวมกับอัญมณีชนิดอื่น หากเป็นพลอยร่วงที่ยังไม่เข้าตัวเรือนก็ไม่ควรเก็บรวมในห่อเดียวกัน เพราะอาจจะเกิดการขูดขีดกันเองจนเป็นรอยได้ ควรแยกเก็บในถุงผ้าขนาดเล็กหรือกล่องแยกชิ้นที่มีผ้านุ่มรอง การทำความสะอาด ให้ใช้น้ำยาล้างเครื่องประดับ หรือสบู่เหลวอ่อน ๆ ผสมน้ำให้เจือจาง ปัดทำความสะอาดตามซอกมุมและด้านหลังด้วยแปรงขนนุ่ม หรือใช้เครื่องทำความสะอาดแบบอัลตราโซนิก จากนั้นใช้ผ้านุ่มสะอาดซับ ผึ่งลม หรือเป่าให้แห้ง
ไม่ควรสวมใส่เครื่องประดับ บุษราคัม ขณะทำกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือเสี่ยงต่อความสวยงามและความคงทนของบุษราคัม เช่น ทำสวน ทำความสะอาดบ้าน เล่นกีฬา ประกอบอาหาร เพราะอาจมีสิ่งสกปรก น้ำยา และสารเคมีต่าง ๆ มาเกาะติดบนผิวทำให้หมองหรือความแวววาวลดลงได้ การกระทบกระแทกกับสิ่งต่าง ๆ เช่น ของมีคมอาจทำให้บิ่นหรือแตกร้าวได้ นอกจากนี้ควรระวังเปลวไฟหรือความร้อนซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสีของ บุษราคัม จากบางแหล่งได้เหมือนกันคับ...
อย่าลืมติดตาม รู้จริงเรื่องอัญมณี กับผมได้ใหม่ในบทความหน้า…นะคับ
อ่านบทความก่อนหน้า...
รู้จริงเรื่อง ไพลิน (BLUE SAPPHIRE)