บทความนี้ผมจะพามารู้จักกับอัญมณีสีน้ำเงิน อีกชนิดหนึ่ง ที่นิยมกันในท้องตลาด และมีราคาค่อนข้างสูง ที่มีชื่อเรียกกันคุ้นๆ หู ศรีหมอกเมฆ นิลกาฬ ส่วน นิลกาฬ ในที่นี้ไม่ได้หมายความถึง นิล นะคับ เข้าใจผิดกันเยอะ แต่ก็คือ ไพลิน (BLUE SAPPHIRE) นั่นเองคับ...
ไพลินหรือแซฟไฟร์ (Blue Sapphire or Sapphire)
เป็นแร่คอรันดัม เช่นเดียวกับ ทับทิม แต่ไพลินมีสีน้ำเงินที่เกิดจากธาตุเหล็กและไทเทเนียม คำว่า “ไพลิน” มาจากชื่อเมืองที่เป็นแหล่งคอรันดัมสีน้ำเงินในประเทศกัมพูชาอยู่ใกล้ชายแดนไทยและกัมพูชา ไพลิน มีความแข็งรองจากเพชร มีค่าความแข็งตามสเกลของโมส์เท่ากับ 9 ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอัญมณีสูงค่าตั้งแต่ 800 ปีก่อนคริสตกาล ในสมัยโบราณ เชื่อว่าโลกตั้งอยู่บน ไพลินขนาดมหึมา เมื่อพระอาทิตย์สาดแสงส่องลงมายังพื้นโลก จึงได้สะท้อนนำแสงสีน้ำเงินของ ไพลิน กลับขึ้นไปสู่ท้องฟ้า ทั้งยังเชื่อว่าเป็นเครื่องรางที่ขจัดปัดเป่าโรคร้าย และความเจ็บป่วยช่วยคุ้มครองให้ปลอดภัยในการเดินทาง เป็นต้น
แซฟไฟร์ เป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์หรือความจริง ความมั่นคง หรือความแน่วแน่ พระคัมภีร์ไบเบิลฉบับเก่า ได้ระบุไว้ว่า แซฟไฟร์ เป็นอัญมณี 1 ใน 12 อัญมณีพื้นฐานที่มีพลังอำนาจมากที่สุด จึงใช้ประดับที่เกราะหน้าอกของบาทหลวง การสวมใส่อัญมณีแต่ละชนิดในแต่ละเดือนทำให้เกิดสิริมงคล เช่น ตำนานเก่าแก่ของชาวฮินดูกล่าวไว้ว่า แซฟไฟร์ เป็นอัญมณีสำหรับผู้ที่เกิดเดือน กรกฎาคม และเชื่อว่าแซปไฟร์เป็นอัญมณีประจำราศีพฤษภ กลุ่มดาวรูปโค หรือผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 21 เมษายน- 21 พฤษภาคม
แต่ชาวอาหรับเชื่อว่า แซฟไฟร์ เป็นอัญมณีของผู้ที่เกิดราศีเมถุน กลุ่มดาวรูปคนคู่หรือผู้ที่เกิดระหว่าง วันที่ 22 พฤษภาคม- 21 มิถุนายน ต่อมาในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1912 ได้มีการประชุมสมาคมผู้ค้าเครื่องประดับแห่งชาติที่เมืองแคนซัส ได้มีการกำหนดอัญมณีประจำเดือนเกิดสมัยใหม่ขึ้น ทำให้ แซฟไฟร์ เป็นอัญมณีประจำเดือนประจำเดือน กันยายน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แซฟไฟร์ เป็นอัญมณีที่เป็นมงคลสำหรับงานฉลองครบรอบแต่งงานปีที่ 5 หรือ 45 นอกจากนั้นยังเชื่อกันอีกว่า แซปไฟร์ช่วยให้ผู้สวมใส่มีสายตาดีขึ้น รวมทั้งเห็นอนาคต
เป็นเวลานับพันปีมาแล้วที่มนุษย์เชื่อพลังอำนาจของ แซฟไฟร์ มีหลักฐานมากมาย อาทิ ตำนานกล่าวถึงกษัตริย์ ดิเกรอน ว่าแซปไฟร์ได้ป้องกันพระองค์จากอันตรายและความอิจฉาตามคำบอกเล่าของมาร์โบด ในศตวรรษที่ 11 พลังอำนาจของ แซฟไฟร์ ยังรวมถึงอำนาจขับไล่หรือป้องกันการฉ้อฉลหลอกลวง และป้องกันความน่ากลัวและการก่อการร้ายรวมทั้งอำนาจปกป้องผู้สวมใส่จากยาพิษและวิญญาณชั่วร้าย หลังจากนั้นประมาณ 200 ปี เอกสารบันทึกเรื่องราวของชาวฝรั่งเศสได้รายงานว่า แซฟไฟร์ มีพลังอำนาจป้องกันความยากจน ส่วนช่างเจียระไนอัญมณีในยุคเดียวกันนั้นกล่าวว่า แซฟไฟร์ ทำให้คนโง่เป็นคนฉลาด ทำให้คนที่ฉุนเฉียวง่ายเปลี่ยนเป็นคนอารมณ์ดี และเป็นยังเป็นอัญมณีที่นำความสงบสุขและความรุ่งโรจน์มาสู่ผู้สวมใส่อีกด้วย
ในประเทศไทยแต่เดิมนั้น แร่คอรัมดัม สีฟ้าหรือสีน้ำเงิน และสีอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ สีแดง จะเรียกว่า นิลกาฬ หรือ นิล ในสมัยก่อนทางจันทบุรีเรียก พลอยคอรันดัม ทุกสีว่า นิล เช่น นิลสีฟ้า นิลสีเขียว นิลสีเหลือง (นิลสีฟ้า หรือ สีน้ำเงินที่ไม่มีสีอื่นปนเรียก "ไพลิน" นิลสีเขียวใบไม้เรียก "เขียวบางกะจะ" ) ยกเว้นสีแดง เรียกว่า "พลอยแดง" ส่วนทางกาญจนบุรี เรียกแร่คอรันดัมตามสี เช่น พลอยน้ำเงิน พลอยเหลือง หรือพลอยน้ำบุษร์ ไพลิน ส่วนใหญ่มักผ่านการเผา เพื่อให้สีสวยขึ้นและเป็นที่ยอมรับกัน โดยทั่วไปการเจียระไน ไพลิน นิยมเจียระไนแบบเหลี่ยมผสม
ไพลิน มีชื่อเสียงและมีขนาดใหญ่ ได้แก่
1. Star of India น้ำหนัก 563.35 กะรัต
2. Midnight Star น้ำหนัก 116.75 กะรัตเก็บรักษาที่ American Museum of Natural History (นิวยอร์ก)
3. Star of Asia น้ำหนัก 330 กะรัต เก็บรักษาที่ Smithsonian
แหล่งกำเนิด "ไพลิน" ที่สำคัญ
แหล่ง ไพลิน ที่สำคัญในปัจจุบัน ได้แก่ พม่า ศรีลังกา มาดากัสการ์ ไทย กัมพูชา ออสเตรเลีย แทนซาเนีย เวียดนาม ไนจีเรีย อินเดีย จีน และอเมริกา เป็นต้น
ในประเทศไทย แหล่ง ไพลิน อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีและจันทบุรี ปัจจุบันมีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยมาก แล้ว ไพลิน แต่ละแห่งที่มีอยู่ทั่วโลก ต่างกันหรือเหมือนกัน? ลองมาดูกันคับว่า ไพลิน แต่ละแห่งมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้างคับ
ไพลินแคชเมียร์ จากแคล้นแคชเมียร์ ในประเทศอินเดีย เป็นไพลินที่มีสีสดสวยงามจนได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดของไพลินจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ไพลินแคชเมียร์มีสีน้ำเงินสดแกมม่วงเล็กน้อยคล้ายสีดอกอัญชัน มองดูมีเนื้อนุ่มนวลเหมือกำมะหยี่ มีโทนสีปานกลาง ไม่โปร่งใสเสียทีเดียวหรือที่มักเรียกกันว่าสี "Cornflower Blue" ไพลินแคชเมียร์มีราคาสูงมากและหายากมาก ปัจจุบันแทบไม่มีผลผลิตจากแหล่งนี้แล้ว
ไพลินพม่า มีสีน้ำเงินสดแกมม่วงเล็กน้อย หรือที่เรียกว่าสี "Royal Blue" มีโทนสีปานกลางเช่นเดียวกับไพลินแคชเมียร์ แต่ต่างกันตรงไม่มีลักษณะเนื้อนุ่มนวลเหมือนกำมะหยี่
ไพลินเขมร จากเมืองไพลินกัมพูชา มีสีน้ำเงินสดค่อนข้างอิ่มตัว ราคาค่อนข้างแพง หายยาก เนื่องจากผลผลิตมีน้อย
ไพลินซีลอน หรือ ศรีลังกา มีสีน้ำเงินสวยมีประกาย มีชีวิตชีวา มีความสดน้อยกว่าไพลินพม่าและมีโทนสีอ่อนกว่า ทำให้ดูสุกใสมีประกายกว่า ไพลินซีลอนส่วนใหญ่ได้มากจากพลอยก้อนสีขาวขุ่นเหมือนสีน้ำนมที่มีจุดสีน้ำเงินเล็ก ๆ ภายในเนื้อ เมื่อนำไปเผาจะได้พลอยสีน้ำเงินสด
ไพลินไทย จากแหล่งจันทบุรี มีสีน้ำเงินค่อนข้างมืด อาจมีสีเขียวปนเล็กน้อย และอาจมีลักษณะเนื้อเหมือนกำมะหยี่ปนบ้าง ส่วนแหล่งกาญจนบุรี มีสีน้ำเงินสวยกว่าจันทบุรี โดยสีจะแลดูอ่อนหวานนุ่มนวลกว่า (milky)
ไพลินออสเตรเลีย มีสีน้ำเงินดำเข้มกว่าไพลินจันทุบรี อาจมีสีเขียวหรือเหลืองปนอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ไม่มีลักษณะเนื้อเหมือนกำมะหยี่ปนอยู่เลย
ไพลินมาดากัสการ์ มีสีน้ำเงินหลากหลายคล้ายไพลินไทย ออสเตรเลีย ศรีลังกา และพม่า ปัจจุบันไพลินในตลาดส่วนใหญ่มาจากแหล่งนี้มักมีสีน้ำเงินแกมม่วงเล็กน้อย มีประกายดี
การเลือกซื้อ "ไพลิน"
ความนิยมชมชอบสีของคนในแต่ละเชื้อชาติ แต่ละพื้นที่จะแตกต่างกัน สีน้ำเงินของ ไพลิน จึงได้รับความนิยมต่างกัน สีที่จัดว่ามีคุณภาพดีและสวยที่สุดของไพลิน คือ สีน้ำเงินแกมม่วงเล็กน้อย หรือมีสีน้ำเงินสดคล้ายสีดอกอัญชัน มีโทนสีปานกลาง ไม่มืดมาก มีลักษณะเนื้อนุ่มนวลคล้ายกำมะหยี่ ความสุกใส ประกาย แวววาวดี ความสม่ำเสมอของสีดี หากมีงบจำกัด ควรเลือก ไพลิน ที่มีโทนสีค่อนข้างสว่าง มีสีน้ำเงินสดปานกลางมองดูสวยภายใต้แสงไฟ เนื่องจากมีความสุกใสกว่าไพลินที่มีโทนสีมืด ไม่ควรเลือกไพลินที่มีโทนสว่างเกินไปหรือสีน้ำเงินอ่อนคล้ายสีฟ้า เพราะจะดูไม่สวยสดเหมือนไพลินที่มีสีเข้มกว่า และแสงที่ใช้ดูไพลินควรเป็นแสงมาตรฐาน 6,500 เคลวิน
ควรพิจารณาดูว่า ไพลิน มีเนื้อใสสะอาดเมื่อมองดูด้วยตาเปล่าหรือไม่ โดยทั่วไปไพลินมักมีตำหนิมลทินที่มองเห็นได้ หากไพลินมีตำหนิมลทินอยู่ภายในเนื้อ ก็อาจเป็นข้อสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเป็นไพลินแท้ อย่างไรก็ตามต้องแยกให้ออกว่า มลทินเหล่านั้นเป็นมลทินธรรมชาติหรือสังเคราะห์ขึ้น ซึ่งต้องดูด้วยแว่นขยาย 10 เท่า หรือกล้องจุลทรรศน์โดยผู้ที่มีความชำนาญเท่านั้นจึงสามารถแยกความแตกต่างของมลทินธรรมชาติและมลทินสังเคราะห์ขึ้นได้ ไพลินที่สวยและใสสะอาดไร้มลทินหายากมากและมีราคาแพงมากเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ควรซื้อ ไพลินที่ใสสะอาดไร้มลทินโดยสิ้นเชิง ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะเป็น "ไพลินสังเคราะห์"
การเจียระไน ไพลิน ที่ดีควรมีการเจียระไน ได้ส่วนสัดถูกต้อง มีสีสวยที่สุดทางหน้าพลอย โดยต้องเจียระไนที่ทำให้ด้านหน้าพลอยเห็นเป็นสีน้ำเงินแกมม่วงหรือน้ำเงินสด ไม่ใช่สีน้ำเงินแกมเขียว และมีความสมมาตร ไม่บิดเบี้ยว เหลี่ยมคมชัด เรียบสวยงาม แต่ละหน้าเหลี่ยมมีรูปร่างพอดี
ระวังซื้ออัญมณีผิดชนิด!! กันนะคับ มีอัญมณีชนิดอื่นที่มีสีน้ำเงินหรือสีฟ้าเข้มที่อาจเข้าใจผิดว่าเป็นไพลิน เช่น เพทายสีน้ำเงิน แทนซาไนต์ ทัวร์มาลีนสีน้ำเงิน ไคยาไนต์สีน้ำเงิน อะความารีน เป็นต้น
ไพลินสตาร์หรือไพลินสาแหรก ส่วนใหญ่มีสีน้ำเงินแกมดำหรือสีน้ำเงินแกมเทา เจียระไนแบบหลังเบี้ย พลอยสตาร์คุณภาพดี ขาดาวต้องมีลักษณะครบสมบูรณ์ ตรงและคมชัดอยู่กึ่งกลางพลอย รวมทั้งต้องพิจารณาดูสัดส่วนด้วย ราคาของไพลินสตาร์ขึ้นอยู่กับสี ความสะอาด ตำแหน่งและความคมชัดของสตาร์ ความใสของเนื้อพลอยและรูปทรงที่ไม่บิดเบี้ยว จุดตัดกันของสตาร์ควรอยู่กึ่งกลางพลอยโดยปกติจะเป็นสตาร์ 6 ขา ความยาวเท่ากันและทุกขายาวจรดขอบพลอย
ไพลินสตาร์สังเคราะห์หรือไพลินที่ทำดาว (induced star sapphire) ซึ่งขาดาวจะคมชัดเกินไปและลักษณะดาวดูเหมือนลอยขึ้นมาจากผิวพลอย ไพลินสังเคราะห์ มีคุณสมบัติทางกายภาพและทางแสงเหมือนไพลินธรรมชาติ โดยเฉพาะชนิดที่มีมลทินด้วยแล้ว มลทินนั้นยังดูคล้ายมลทินธรรมชาติ จึงค่อยข้างตรวจสอบได้ยาก
สำคัญมาก! การที่เราจะเลือกซื้อ ไพลิน สักเม็ดหนึ่งที่สวย ใสสะอาด ไร้มลทินและมีขนาดใหญ่ ส่งผลทำให้มีราคาแพงขึ้นเป็นเงาตามตัว คนจำนวนไม่น้อยที่ซื้ออัญมณีผิดชนิด ไม่ว่าร้านที่เราซื้อจะมีความจริงใจ เปิดเผยความจริงหรือไม่ก็ตาม เราควรมั่นศึกษาหาความรู้เบื้องต้นก่อน เพื่อที่เราจะได้เลือกซื้อ ไพลิน ได้อย่างมั่นใจและไม่ถูกหลอก ทำให้ได้ไพลินที่มีคุณภาพเยี่ยม ราคาเป็นธรรม ดูคุ้มค่ากับเงินที่เราได้จ่ายไป
อย่าลืมติดตาม รู้จริงเรื่องอัญมณี กับผมได้ใหม่ในบทความหน้า... นะคับ
วันนี้ขอตัวไปตลาดพลอยก่อนคับ
อ่านบทความก่อนหน้า...
รู้จริงเรื่อง มณีแดง หรือ พลอยทับทิม(Ruby) ตอน1