
ภาพเมืองโมกกจากจุดชมวิวของเมือง
ทับทิม (ruby) หรือที่พ่อค้าไทยมักเรียกกันว่า “พลอยแดง” ในด้านวิชาการทับทิมเป็นแร่คอรันดัม (corundum) ชนิดหนึ่งที่มีสีแดง มีองค์ประกอบทางเคมีคือ อะลูมิเนียมออกไซด์ (Al2O3) มีธาตุที่ให้สีคือโครเมียม(Cr) มีความแข็งระดับ 9 รองจากเพชร คำว่า ทับทิม หรือ “RUBY” มาจากภาษาลาติน ว่า “RUBER” หรือ “RUBINUS” หมายถึง สีแดง ส่วนรากศัพท์เดิมมาจากภาษาสันสกฤต คือ Ratanaraj หรือ Ratananayaka แปลว่า ราชาแห่งอัญมณี พลอยทับทิม เป็นอัญมณีที่มีประวัติยาวนานกว่า 2,500 ปีแล้ว โบราณเชื่อว่าเป็นของขลังป้องกันความเจ็บป่วยหรือความโชคร้าย ชาวจีนเชื่อว่าทับทิมมีอำนาจลึกลับทำให้ผู้สวมใส่เป็นที่รักใคร่หลงใหล มีพลังอำนาจ ความกล้าหาญ พลอยทับทิม จึงเป็นอัญมณีที่มีราคาสูงและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก สำหรับประเทศไทยพลอยทับทิมเป็นพลอยสีที่สำคัญที่สุดของประเทศ เนื่องด้วยประเทศไทยจัดเป็นผู้ผลิตและส่งออกพลอยทับทิมรายใหญ่ที่สุดอันดับหนึ่งของโลกเลยทีเดียว
แม้ว่าประเทศไทยแทบจะไม่มีแหล่งพลอยทับทิม ของตนเองแล้ว แต่ทับทิมที่พบในแหล่งทับทิมที่สำคัญในปัจจุบัน ได้แก่ เมียนมา มาดากัสการ์ กัมพูชา เวียดนาม แทนซาเนีย โมซัมบิก เคนยาและอัฟกานิสถาน เป็นต้น ก็ยังคงหลั่งไหลเข้ามาสู่ประเทศไทยอย่างไม่ขาดสาย แต่หากจะพูดถึงทับทิมคุณภาพสูงที่มีสีสวย มีเนื้อใส มีสีแดงสดบริสุทธิ์ซึ่งถือว่าสวยที่สุด ที่มักเรียกว่าสีเลือดนกพิราบ หรือ Pigeon’s Blood ทับทิมที่มีคุณภาพดีสีสวยหายากเหล่านี้มักมาจากประเทศเมียนมาเพื่อนบ้านของเรานั่นเอง เชื่อหรือไม่ว่าทับทิมสีแดงสดขนาดใหญ่คุณภาพดีเยี่ยมอาจมีราคาสูงกว่าเพชรในขนาดและคุณภาพเดียวกันก็ได้ ดังนั้นบางครั้งทับทิมที่มีคุณภาพดีเยี่ยมอาจจัดเป็นอัญมณีที่มีราคาแพงที่สุดในโลกก็ว่าได้
โมกก (Mogok) เมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือของมัณฑะเลย์ ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ผลิตพลอยทับทิมคุณภาพสูงมาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่าทับทิมดังๆ ของโลกล้วนแต่มาจากแหล่งนี้แทบทั้งสิ้น การเกิดของทับทิมที่นี่เป็นการเกิดในหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ แม้ว่าในปัจจุบันผลผลิตทับทิมจากแหล่งนี้จะน้อยลง แต่มนต์เสน่ห์ของแหล่งพลอยแห่งนี้ ในเมืองแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่เป็นแหล่งทับทิม แต่ยังเต็มไปด้วยวิถีชีวิต และวัฒนธรรมการค้าพลอยที่เป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง
บรรยากาศตลาดพลอยในโมกก (ตลาดเช้า ตลาดบ่ายและตลาดกลางคืน)
การเข้าสู่โมกกไม่ใช่เรื่องง่าย คณะต้องทำเรื่องเพื่อให้ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเท่านั้น การเดินทางเข้าพื้นที่มีเพียงทางเดียวคือ การใช้รถยนต์ คณะนั่งรถไปตามเส้นทางที่เต็มไปด้วยทางคดเคี้ยวขึ้นลงเขา แม้ว่าระยะทางจะไม่ไกลเพียงประมาณ 200 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทางกว่า 6 ชั่วโมงจึงถึงที่หมาย โมกกมีสภาพภูมิประเทศเป็นเมืองในหุบเขาที่วางตัวไปตามแนวตะวันออก และตะวันตกความยาวหลายสิบกิโลเมตรโดยมีสภาพอากาศเย็นสบาย
ในเมืองแห่งนี้มีการค้าขายพลอยของคนท้องถิ่นพบเห็นได้โดยทั่วไป ไม่ว่าจะไปตรงไหนของเมืองก็จะมีโอกาสพบคนขายพลอยเดินเร่ขายอยู่ ทั้งนี้ศูนย์กลางการค้าขายพลอยสีจะมีกระจายตัวเป็นจุดๆ ในเมือง ทั้งในช่วงเช้าและบ่าย โดยตลาดเช้าที่จะเริ่มประมาณ 7 โมงเช้าจนถึงประมาณ 10 โมง โดยพ่อค้าแม่ค้าพลอยจะนำพลอยมาวางขายหรือเดินเสนอตามท้องถนนมีให้เลือกซื้อกันตามกำลังทรัพย์กันเลย หลังจากนั้นในช่วงบ่ายก็จะมีตลาดบ่ายที่จะเริ่มประมาณบ่ายโมงครึ่งจนถึงบ่ายสามโมง ซึ่งตลาดนี้จะมีโต๊ะให้พ่อค้าที่จะมาซื้อพลอยจับจองนั่งคอยผู้ขายซึ่งจะเดินวนเวียนนำเสนอพลอยของตนให้ดูอย่างต่อเนื่อง สนนราคาก็แล้วแต่จะต่อรองกันตามคุณภาพและชนิดของพลอย

เหมืองพลอยปฐมภูมิ เหมืองพลอยทุติยภูมิ
ทั้งนี้หากยังไม่จุใจยังขอให้ผู้ค้านำพลอยมาให้ดูเพิ่มเติมที่โรงแรมในช่วงค่ำได้อีกต่างหาก เรียกได้ว่าสามารถซื้อพลอยกันได้ทั้งวันเลยทีเดียว โดยเหมืองทับทิมที่นี่มีทั้งขนาดเล็กจนถึงเหมืองขนาดใหญ่ มีทั้งที่ทำเหมืองในแหล่งพลอยปฐมภูมิ คือ เจาะอุโมงค์เข้าไปในภูเขาเพื่อขุดหาพลอยทับทิม และที่เป็นแหล่งทุติยภูมิที่ทำเหมืองตามไหล่เขาก็มีให้เห็น
โดยทั่วไปเหมืองขนาดใหญ่มักจะเป็นของรัฐบาลและตามกฎหมายผลผลิตทั้งหมดจะต้องซื้อขายผ่านการประมูลของรัฐที่จะจัดปีละสองครั้งเท่านั้นที่เมืองหลวงเนปิดอว์ นอกจากเหมืองพลอยทับทิมแล้ว ในเมืองนี้ยังอุดมไปด้วยพลอยชนิดอื่นๆ อีกเช่น ไพลิน สปิเนล เพริโด มุกดาหาร เป็นต้น
ขอบคุณบทความดีๆ จาก : GIT สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ